"โซลาร์ตรอน" เผยแนวโน้มผลงาน Q2 ยังเติบโตได้โดดเด่น ผลจากความต้องการใช้แผงโซลาร์เซลล์คึก หลังจากค่าไฟฟ้าพุ่งแรง ขณะธุรกิจ EPC และโรงไฟฟ้าสัญญาณดีต่อเนื่อง ผู้บริหารเดินหน้าเจรจาลงทุนในธุรกิจใหม่ในกลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานหมุนเวียน คาดปิดดีล Q3 หวังสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต พร้อมปักหมุดปี 2566 รายได้เติบโต 20-30% จากธุรกิจเดิม
นายสิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโซลาร์ตรอน จำกัด(มหาชน) หรือ SOLAR เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 2/2566 ยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจหลักการผลิตและจำหน่ายแผงเซลล์แสงอาทิตย์แบบต่างๆ และให้บริการออกแบบ ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ทุกรูปแบบทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะได้รับอานิสงส์จากอัตราค่าไฟฟ้าที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในด้านพลังงาน จึงหันมาใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น สนับสนุนความต้องการใช้แผงโซลาร์เซลล์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นโอกาสที่ดีของบริษัทฯ ขณะเดียวกัน คาดว่าจะสามารถปิดงานในส่วนของธุรกิจ EPC ได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
"ในไตรมาส 2/2566 คาดว่าการเติบโตยังอยู่ในทิศทางที่ดี เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตให้ดีขึ้น และสามารถเดินหน้าผลิตได้เต็มกำลังการผลิต หลังจากความต้องการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนภาคเอกชนที่หันมาลดต้นทุนโดยการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมากขึ้นด้วย ขณะที่บริษัทยังมองโอกาสขยายธุรกิจไปธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน ในกลุ่มเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงธุรกิจที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานหมุนเวียน และคาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในไตรมาส 3/2566 ซึ่งมั่นใจว่าธุรกิจใหม่จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคตให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด"
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 20-30% ในส่วนของธุรกิจเดิม ซึ่งยังไม่นับรวมธุรกิจใหม่ที่จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีก ดังนั้นมั่นใจว่าจะกลับมาเทิร์นอะราวนด์ได้อย่างแน่นอน โดยปัจจัยหลักจะมาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผงโซลาร์เซลล์ งาน EPC โซลาร์รูฟท็อป การจำหน่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าที่ปัจจุบันมีอยู่จำนวน 9 เมกะวัตต์ และการจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบ Private PPA
ตลอดจนบริษัทฯ ยังได้รับผลดีจากโครงการการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง ซึ่งมีการเปิดให้ประมูลราว 5,000 เมกะวัตต์ ส่งผลทำให้ความต้องการแผงโซลาร์เซลเพิ่มขึ้น ขณะที่การที่รัฐบาลเวียดนามได้มีการอนุมัติแผนพัฒนาพลังงานฉบับที่ 8 (PDP8) ซึ่งจะมีการเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 150 GW ภายในปี 2573 โดยในส่วนนี้คาดมีโซลาร์เซลล์อยู่ในสัดส่วน 20 GW อีกทั้งบริษัทยังคงเดินหน้าเข้าไปประมูลงาน Private PPA อย่างต่อเนื่องด้วย
อนึ่ง ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 1/2566 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 147.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 459.73% จากงวดเดียวกันปีก่อนขาดทุนอยู่ที่ 41.67 ล้านบาทขณะที่บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 290.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 280.25% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 76.27 ล้านบาท