เทศกาลสงกรานต์หรือวันปีใหม่ไทยถือเป็นอีกเทศกาลหนึ่งที่จะมีบทบาทในการกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจของไทยได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่วัน แต่ก็มีผลต่อการจับจ่าย การเดินทาง ท่องเที่ยว ชอปปิ้ง อย่างมาก ส่งผลให้เกิดการสะพัดของเงินตราหมุนเวียนในระบบได้มากมาย ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความเคลื่อนไหวของบรรดาค้าปลีกยักษ์ใหญ่ที่มีการจัดอีเวนต์ออกแคมเปญยิ่งใหญ่มาเพื่อที่จะดึงดูดผู้บริโภคให้เข้ามาใช้บริการศูนย์การค้าของตัวเองให้มากที่สุดเพื่อสร้างทราฟฟิก และที่สำคัญคือการสร้างการจับจ่ายให้ศูนย์การค้าและร้านค้าภายในศูนย์ฯ
ยิ่งในช่วงนี้ที่โควิด‐19 เริ่มซาลง สถานการณ์ต่างๆ เริ่มดีขึ้นหลังจากที่ส่งผลกระทบมานานกว่า 3 ปี ยิ่งทำให้แต่ละค่ายต่างก็หวังที่จะช่วงชิงตลาดให้ได้มากที่สุด
*** ททท.คาดสงกรานต์สะพัด 1.8 หมื่นล้าน
ขณะที่หน่วยงานที่ดูแลด้านการท่องเที่ยวเป็นหลักอย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ก็ดูเหมือนจะฝากความหวังกับสงกรานต์ปีนี้ไม่น้อยที่จะปลุกเศรษฐกิจไทยให้กระเตื้องขึ้น
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในปี 2566 นี้ ททท.ได้จัดงาน "เทศกาลเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์" ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 13‐15 เมษายนนี้ ณ บริเวณซอยจุฬาลงกรณ์ 5 (ถนนอุทยาน 100 ปี) กรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นการจัดงานสงกรานต์เต็มที่ครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังจากที่ได้เกิดสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา
นอกจากนี้ ททท.ยังได้สนับสนุนภาคเอกชนในการจัดงานสงกรานต์ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ คาดว่าตลอดการจัดงานในปีนี้ทั่วไทยจะมีนักท่องเที่ยวไทยประมาณ 3.8 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้ 13,500 ล้านบาท และเป็นคนต่างชาติ 300,0000 คนที่มาร่วมสนุก และสร้างรายได้รวมไม่น้อยกว่า 18,000 ล้านบาท
ททท.ยังระบุด้วยว่า ตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ คาดว่าจะมีคนไทยเดินทางภายในประเทศ 3,808,500 คน-ครั้ง และใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียน 13,500 ล้านบาท และจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย ประมาณ 305,000 คน เติบโต 525% จากปีที่ผ่านมา และคิดเป็นสัดส่วน 58% ของจำนวนนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2562 คาดว่าจะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 5,030 ล้านบาท
โดยสามารถแยกเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนจำนวน 56,790 คน มาเลเซีย 50,310 คน เวียดนาม 15,930 คน อินเดีย 14,070 คน เกาหลีใต้ 12,930 คน ฮ่องกง 11,920 คน ลาว 11,520 คน สหราชอาณาจักร 10,570 คน สหรัฐอเมริกา 9,270 คน สิงคโปร์ 9,060 คน รัสเซีย 9,030 คน และออสเตรเลีย 8,460 คน
ก่อนหน้านี้ ททท.มีการระบุว่าการเดินทางท่องเที่ยวของตลาดไทยเที่ยวไทยในช่วงหยุดยาวสงกรานต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น จะสนับสนุนให้เกิดการเดินทางในประเทศทั้งเดือนเมษายน 2566 อยู่ที่ 17-20 ล้านคน/ครั้ง โดยความจริง ททท.ต้องการดันตัวเลขให้ถึง 20 ล้านคน/ครั้ง แต่ที่กำหนดไว้เป็นช่วงระหว่าง 17-20 ล้านคน/ครั้งนั้น เพราะต้องมีการกระจายความเสี่ยงหลังจากต่างประเทศเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น ทำให้มีคนไทยกลุ่มเที่ยวนอกบางส่วนถือโอกาสใช้วันหยุดยาวสงกรานต์ออกไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับประเพณีสงกรานต์ของประเทศไทยถือเป็นหนึ่งใน 5F ซึ่งเป็น Soft Power of Thailand คือ F Festival และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Cultural Tourism) ของไทยสะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทยและได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาอย่างยาวนาน และ “ประเพณีสงกรานต์” ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 เทศกาลสำคัญของเอเชียจาก International Festival and Events Association (IFEA) ในปี 2564 ด้วยเหตุนี้ ททท.จึงมีแนวคิดต่อยอดยกระดับงานประเพณีพื้นเมืองไทยสู่สากล (Local to Global) โดยเริ่มต้นจากเทศกาลสงกรานต์ จึงกำหนดจัดงาน เทศกาลสาดความสุข สนุกแบบอินเตอร์ INTERNATIONAL AMAZING SPLASH 2023 ซึ่งจะนำเทศกาลที่เป็นที่รู้จักระดับโลกมาร่วมจัดแสดงควบคู่ไปกับงานเทศกาล “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2566 ณ บริเวณซอยจุฬาลงกรณ์ 5 (ถนนอุทยาน 100 ปี)
*** ซีพีเอ็น
นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 ปีนี้ ทางซีพีเอ็นมีความพร้อมในการจัดงานมหกรรมสงกรานต์อย่างเต็มที่ โดยวางงบประมาณการตลาดไว้ทั้งหมดมากกว่า 100 ล้านบาทเพื่อจัดงานสงกรานต์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงบรวมการตลาดในช่วงซัมเมอร์หรือหน้าร้อนนี้ที่ตั้งไว้รวมประมาณ 400 ล้านบาท และยังถือว่าเป็นงบประมาณการจัดงานสงกรานต์ที่มากที่สุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ก็ว่าได้ โดยคาดหวังว่าจะเป็นเทศกาลมหาสงกรานต์ที่มีความคึกคักมากที่สุดในรอบ 3 ปี
ทั้งนี้ ซีพีเอ็นจัดอีเวนต์สงกรานต์ งาน “THAILAND SONGKRAN FESTIVAL 2023 สงกรานต์มหาบันเทิง” ช่วงระหว่างวันที่ 14-16 เมษายนนี้ รวม 3 วัน คอนเซ็ปต์การจัดงานจะทำให้เป็นเฟสติวัลระดับโลก เพราะสงกรานน์เป็นที่รู้จักดีในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่แล้ว
โดยจะสร้างเป็นเฟสติวัล แลนด์มาร์ก จัดทั้งในเมืองหลักและเมืองรองทั่วประเทศผ่านเครือข่ายศูนย์การค้าของเซ็นทรัลที่มีอยู่ทั่วประเทศอยู่แล้ว ซึ่งเราต้องการสร้างกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้าง “Culture & Entertainment Festival” และสร้างอิมแพกต์ทั้งในประเทศและระดับโลก เพื่อดึงดูดนักท่องที่ยวและยังมีเป้าหมายในการขยายกลุ่มเป้าหมายในทุกกลุ่ม ซึ่งไฮไลต์หลักการจัดงานจะอยู่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ที่จะมีการจัดเทศกาลดนตรีระดับโลก บรรยากาศท่ามกลางสายน้ำ จากศิลปินระดับโลก และธีมปาร์ตี้ระดับโลก
ซึ่งจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกเข้ามาใช้บริการในทุกศูนย์การค้าของบริษัทที่มีรวม 38 แห่ง รวมคนมากกว่า 1.5 ล้านคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 20-30% จากช่วงปกติ ที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการประมาณ 1.2-1.3 ล้านคนต่อวัน กระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งระบบและการใช้จ่ายในศูนย์การค้าช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ เกิดความคึกคักมากยิ่งขึ้นซึ่งคาดว่าเพียงแค่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ที่เดียวก็จะมีคนเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 2 แสนคนต่อวัน หรือกว่า 6 แสนคนช่วงจัดงาน 3 วัน 14-16 เม.ย.
*** ไอคอนสยาม
นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เปิดเผยว่า ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา และยังเป็นหมุดหมายการท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงเทพมหานครและประเทศไทย ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชน จัดงานมหาสงกรานต์ “THE ICONIC SONGKRAN FESTIVAL 2023 ไอคอนสยาม มหัศจรรย์เจ้าพระยามหาสงกรานต์ ๒๕๖๖” ทุ่มงบกว่า 20 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเพณีสงกรานต์ของไทยกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาขององค์การยูเนสโก (UNESCO) เพื่อยกให้เป็น "มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ซึ่งเชื่อว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้มาเยือนไอคอนสยามเพิ่มขึ้น 100% จากปีที่ผ่านมา
“ตั้งแต่ต้นปีพบว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวจีน รวมถึงประเทศในแถบเอเชีย และจากทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก คาดการณ์ว่าปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยทั้งสิ้นถึง 30 ล้านคน เป็นสัญญาณบวกแสดงถึงการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว ที่ตามมาคือเศรษฐกิจขยายตัว ส่งผลให้แนวโน้มการใช้จ่ายประชาชนคึกคักมากกว่าทุกๆ ปี นอกจากนั้น ผลสำรวจจาก แกร็บ ประเทศไทย พบว่า ไอคอนสยามเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ชาวต่างชาติชอบไปมากที่สุด ตอกย้ำถึงความเป็นแลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพียงหนึ่งเดียวที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาเยือน” นายสุพจน์กล่าว
นายสุพจน์กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร ร่วมกับไอคอนสยาม และองค์กรพันธมิตรทั้งภาครัฐ เอกชน ได้แก่ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, เมืองสุขสยาม, บริษัท ห้าตะขาบ (ซิม เทียน ฮ้อ) จำกัด, แป้งตรางู, บ้านทองสมสมัย, น้ำอบนางลอย, สมาคมการค้าและธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมกันรังสรรค์งาน
“ไอคอนสยาม มหัศจรรย์เจ้าพระยามหาสงกรานต์ ๒๕๖๖” (THE ICONIC SONGKRAN FESTIVAL 2023) ภายใต้แนวคิด Blooming ซึ่งสื่อถึงความเบิกบาน การเริ่มต้นใหม่ การได้กลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2566 อย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกปี อลังการกับขบวนแห่นางสงกรานต์ที่สวยงามวิจิตรแบบไทย เสริมสิริมงคลสรงน้ำพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง พร้อมสนุกสนานกับการสาดน้ำสงกรานต์ริมเจ้าพระยา และการแสดงดนตรีของศิลปินชั้นนำ ครบทั้งสายมูที่มองหาความเป็นมงคล สายกิน สายชอป ตอบโจทย์ครบทุกกลุ่มทั้งครอบครัว คนรุ่นใหม่ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลก และยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
*** สยามพารากอน
ขณะที่ สยามพารากอน ก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน เรียกได้ว่างานนี้จัดเต็มที่เลยทีเดียวกับสงกรานต์ปีนี้ตอกย้ำความเป็นที่ 1 ในใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติทั่วทุกมุมโลก ยกทัพกิจกรรมรับซัมเมอร์ เนรมิตพื้นที่พาร์ค พารากอน ชั้น M และแฟชั่น แกลเลอรี ชั้น 1 สยามพารากอน ต้อนรับฤดูกาลซัมเมอร์สุดหรรษา ฉลองปีใหม่ไทยและร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ให้คงความงดงาม ในงาน Siam Paragon Summer Ultrasonic 2023 "Feel the waves and beats" พร้อมอัดแน่นกิจกรรมสุดพิเศษตลอดเดือน ตั้งแต่วันที่ 12-23 เมษายน 2566 มหกรรมคอนเสิร์ตจัดเต็มจากศิลปินดังวันที่ 12-16 เมษายน 2566 ณ พาร์ค พารากอน
*** เมกาบางนา
ศูนย์การค้าเมกาบางนา จัดงาน “เมกา สงกรานต์” (Mega Songkran) ระหว่างวันที่ 13-16 เมษายน 2566 ที่ศูนย์การค้าเมกาบางนา ในงานมีกิจกรรมเต็มทุกพื้นที่ตลอด 4 วัน ครบครันความสนุกและความสุขสำหรับทุกเจเนอเรชัน พร้อมการกลับมาของสวนน้ำและแลนด์มาร์กถ่ายภาพสะท้อนกลิ่นอายความเป็นไทยแบบไม่จำเจ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 โซนหลักๆ ได้แก่ โซนที่ 1 สวนน้ำขนาดยักษ์ “Songkran Water Park” และเครื่องเล่นในสระน้ำขนาดใหญ่ถึง 3 สระ, โซนที่ 2 โซน Songkran Family Club บริเวณฟูดวอล์ก พลาซา ชั้น G รวบรวมหลากหลายกิจกรรมทั้งร้อง เต้น เล่น
โซนที่ 3 โซน Songkran Landmark โซนวัฒนธรรมที่ให้ลูกค้าได้ร่วมสรงน้ำพระ, ไหว้ขอพรพระพุทธรูปปลุกเสกปางมารวิชัย และการทำบุญไหว้พระประจำวันเกิด
โซนสุดท้าย Megabangna Maha Songkran พบกับความอร่อยในงาน เมกาบางนา มหาสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 5-16 เม.ย. ณ บริเวณโซนธนาคาร
นางสาวกมลทิพย์ สรวยสุวรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายกิจการองค์กรและความยั่งยืน ผู้ช่วยประธานบริหาร ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “ซัมเมอร์และเทศกาลสงกรานต์ เป็นช่วงเวลาพิเศษที่หลายคนได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ ซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมายของโรบินสันไลฟ์สไตล์ที่จะได้มารวมตัวกันในศูนย์การค้าฯ ใช้เวลาร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะแคมเปญพิเศษที่จัดขึ้นในทุกปี ด้วยเหตุนี้ทางศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์จึงอยากมอบประสบการณ์แห่งความสุขในช่วงเวลาสุดพิเศษของคนไทยด้วยแคมเปญ ‘ROBINSON LIFESTYLE SUMMER SPLASH’ สาดสุขมาหาสนุก เพื่อเป็นจุดหมายปลายทางใกล้บ้านของทุกคนที่จะได้มาร่วมทำกิจกรรมร่วมกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 นี้”
“การจัดแคมเปญ ‘ROBINSON LIFESTYLE SUMMER SPLASH’ สาดสุขมาหาสนุก ในครั้งนี้ไม่เพียงตอบโจทย์เรื่องการชอปปิ้ง แต่ยังมุ่งเน้นในเรื่องของการเติมสีสันการใช้ชีวิตในศูนย์การค้า ซึ่งเป็นศูนย์รวมทุกความต้องการ ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านสเปเชียลตี้สโตร์ ซูเปอร์มาร์เกต พื้นที่พักผ่อนสำหรับครอบครัวและสัตว์เลี้ยง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่สอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนในแต่ละพื้นที่ นับว่าโรบินสันไลฟ์สไตล์เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของทุกคนในชุมชน สอดรับวิสัยทัศน์ “มอบประสบการณ์การชอปปิ้งที่แตกต่างสำหรับการใช้ชีวิตในทุกๆ วัน ใกล้บ้านคุณ”
แคมเปญ ‘ROBINSON LIFESTYLE SUMMER SPLASH’ สาดสุขมาหาสนุก ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม‐30 เมษายน 2566 ที่ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ทุกสาขาทั่วประเทศ
***น้ำแร่ ช้างอัดอีเวนต์
นายเลสเตอร์ ตัน ผู้บริหารผลิตภัณฑ์น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง กล่าวว่า “ช้าง ให้ความสำคัญต่อการทำเฟสทีฟมาร์เกตติ้ง เพื่อเติมเต็มความสนุกให้กับกลุ่มเพื่อนในทุกโมเมนต์ ซึ่งเทศกาลสงกรานต์ถือเป็นช่วงเวลาที่ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกรอคอย โดยในปีนี้ ช้าง ขอชวนแก๊งเพื่อนออกมาสาดความสนุกกันอย่างเต็มที่ทั่วประเทศ กับงานสงกรานต์ระดับไอคอนิก หรือ 6 งานยักษ์ทั้งในกรุงเทพฯ และในจังหวัดแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ รวมไปถึงงานระดับท้องถิ่น เช่น งานระดับอำเภอหรือชุมชน พร้อมกิจกรรม ณ ร้านค้าหรือร้านอาหารต่างๆ ที่เป็นแหล่งรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อน ให้ได้เติมเต็มความสนุกอย่างทั่วถึง รวมกว่า 500 จุดทั่วประเทศ”
“ช้าง ยังได้ยึดพื้นที่สงกรานต์ย่าน RCA ที่เป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลต์ของกรุงเทพฯ เพื่อเปิดพื้นที่ความคูลและมอบประสบการณ์ความชิลเหนือระดับกับงาน EDM ระดับประเทศ เช่น “Siam Songkran” รวมทั้งเตรียมเติมเต็มความสนุกกว่าทุกปีกับอีเวนต์ในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ อย่าง “Songkran Fun Fest” ที่เชียงใหม่ “Songkran Neon Party” ที่เชียงราย “UD Town Songkran Fest” ที่อุดรธานี และ “Splash Pool Party @ The Mall Korat” ที่นครราชสีมา เป็นต้น นอกจากนี้ ช้างยังได้เตรียมไอเท็มสุดพิเศษที่ออกแบบมาให้ทุกคนได้สนุกกับเพื่อนใน “ช้าง สงกรานต์” โดยเฉพาะ เช่น แว่นกันน้ำ กล่องสะพายกันน้ำ ซองกันน้ำ ปืนฉีดน้ำ ฯลฯ ให้สงกรานต์ปีนี้พิเศษยิ่งกว่าเดิม” นายเลสเตอร์กล่าว
สำหรับไฮไลต์ของ 6 งานสงกรานต์ระดับไอคอนิก ประกอบด้วย“ช้าง โคลด์ บรูว์ คูล คลับ” (Chang Cold Brew Cool Club) กับเทศกาลดนตรี EDM ให้ได้ชิลกันในโซน Chang Cold Brew Cool Club ได้แก่ S2O ที่ Live พระราม 9: วันที่ 13-15 เมษายน 2566 และ Siam Songkran ที่ RCA: วันที่ 12-14 และ 16 เมษายน 2566
ส่วน “ช้าง สงกรานต์” ได้แก่ Splash Pool Party ที่ The Mall โคราช: วันที่ 12-15 เมษายน 2566, UD Town Songkran Fest ที่ UD Town อุดรธานี: วันที่ 12-16 เมษายน 2566, Songkran Fun Fest ที่ Central Festival เชียงใหม่: วันที่ 13-15 เมษายน 2566, Songkran Neon Party ที่ Central Plaza เชียงราย: วันที่ 13-15 เมษายน 2566