ผู้จัดการรายวัน 360 - อ้วยอันโอสถ แบรนด์สมุนไพรไทยที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 70 ปี ฉีกกรอบการทำการตลาดแบรนด์เดิมๆ เปิดเกมรุกครั้งใหม่ เดินหน้าชูกลยุทธ์ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูทันสมัย เข้าถึงง่าย ด้วยการเลือกใช้กลยุทธ์ Music Marketing นำเสียงเพลงมาเป็นสื่อกลางในการเชื่อมต่อคนทุกเจนฯ เป็นครั้งแรก หวังสร้างมิติใหม่ให้แบรนด์สมุนไพรไทย ให้เข้ากับคนทุกเจนฯ พร้อมก้าวทันไปกับกระแสโลก ตอกย้ำแนวคิด “เลือกแล้ว อ้วยอันโอสถ สมุนไพรของไทย”
นางนิชา สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด กล่าวว่า ท่ามกลางความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในยุคดิจิทัล บวกกับสถานการณ์โควิด-19 ที่เข้ามาเปลี่ยนโลกธุรกิจใบเดิมให้ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป ทำให้หลายแบรนด์ต้องเร่งปรับทัพ หันมาวางกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ เพื่อให้ก้าวทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก
อ้วยอันโอสถก็เช่นกัน แม้จะเป็นแบรนด์สมุนไพรไทยที่อยู่คู่คนไทยมานาน แต่มีแนวคิดในการทำการตลาดที่ไม่ยึดติดกับกรอบเดิมๆ พร้อมชูกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความทันสมัย และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย
“โจทย์ในการทำตลาดของเรา คือ ทำให้อ้วยอันโอสถ ซึ่งเป็นของดีของไทยที่ทุกคนนิยมใช้มานาน สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ที่มีตั้งแต่กลุ่มสูงวัยไปจนถึงกลุ่ม young gen แน่นอนว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มก็มีไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมในการเสพสื่อที่แตกต่างกัน เราจึงต้องเลือกกลยุทธ์ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ครอบคลุม นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราเลือกหยิบกลยุทธ์การตลาดยอดฮิต อย่าง Music Marketing มาใช้เป็นครั้งแรก”
โดยเลือกนำเพลงฮิตติดหูอย่าง “อ้ายจัสวอนน่าเป็นแฟนยูได้บ่?” ของ สิงโต นำโชค ซึ่งเป็นเพลงที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง การันตีด้วยยอดวิวบนยูทูบที่สูงถึง 150 ล้านวิว โดยนำเนื้อร้องมาดัดแปลงและมีออกแบบท่าเต้น เพื่อให้เหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์สามารถนำไปต่อยอดเนื้อหาความบันเทิง เพื่อสร้างกระแสไวรัลในโลกออนไลน์ ขณะที่เนื้อหาของเพลงเรามีการสอดแทรกจุดเด่นของอ้วยอันโอสถแบบเข้าใจง่าย และคงความสนุกสนานแบบต้นฉบับไว้ โดยเชื่อว่าทุกคนจะรู้จักอ้วยอันโอสถมากขึ้น และร้องเพลง
“#ไอจัสวอนนาแฮฟอ้วยอันได้บ่” ด้วยกันได้อย่างแน่นอน
นางนิชายังเสริมด้วยว่า นอกจากจะมีการใช้ “เพลง” เป็นสื่อกลางเพื่อสร้างสีสันใหม่ให้กับแบรนด์แล้ว อ้วยอันโอสถยังมีแผนในการทำการตลาดแบบครบวงจร ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยจะประเดิมเปิดตัวด้วย MV “#ไอจัสวอนนาแฮฟอ้วยอันได้บ่” เมื่อวันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังจากนั้นจะมีการเผยแพร่ผ่านช่องทางโทรทัศน์ (TVC) วิทยุ แบนเนอร์ ตลอดจนการโปรโมตผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย และกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่างๆ เพื่อตอกย้ำจุดแข็งของแบรนด์ในฐานะแบรนด์ที่เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรไทยของดีของไทยที่คนนิยมใช้มานาน
ทั้งนี้ นางนิชากล่าวทิ้งท้ายว่า แม้อ้วยอันโอสถจะพร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ใหม่ๆ มีการปรับปรุงและพัฒนาทั้งด้านการตลาด ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง คือ ความมุ่งมั่นในฐานะแบรนด์สมุนไพรคุณภาพที่ดูแลคนไทยมาอย่างยาวนาน และพร้อมจะเติบโตคู่สังคมไทยจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยการรักษาระดับคุณภาพของสินค้าให้ดีเหมือนเดิม ใส่ใจในทุกกระบวนการผลิต ตั้งแต่การคัดวัตถุดิบธรรมชาติ จนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป โดยกระบวนการทั้งหมดได้รับการออกแบบอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดของสมุนไพร และตรงต่อความพึงพอใจของผู้บริโภค