ทล.ดันมอเตอร์เวย์ 4 สาย มูลค่ารวมกว่า 1.5 แสนล้านบาท ลุ้น ครม.เคาะ M9 บางขุนเทียน-บางบัวทอง-บางปะอิน ก่อนหมดวาระ เปิด PPP ปลายปี 66 เติมโครงข่าย ทะลวงคอขวด กทม.โซนตะวันตก
รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตก (M9) จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ มอเตอร์เวย์ (M9) ทางยกระดับ ช่วงบางขุนเทียน-บางบัวทอง ระยะทางประมาณ 36 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 56,035 ล้านบาท และมอเตอร์เวย์ (M9) ช่วงบางบัวทอง-บางปะอิน ระยะทาง 35 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 23,025 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการ PPP เห็นชอบแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนกระทรวงคมนาคมนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติโครงการ และเห็นชอบการใช้แหล่งเงินลงทุน
ทั้งนี้ ตามขั้นตอน หลังจาก ครม.เห็นชอบจึงจะดำเนินการขั้นตอนแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือก หากเสนอ ครม.ได้ทันในรัฐบาลนี้คาดว่าจะออกประกวดราคาได้ช่วงปลายปี 2566
สำหรับ M9 ช่วงบางขุนเทียน-บางบัวทอง จะเป็นการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ทางยกระดับบริเวณเกาะกลางของถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก และจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) คิดตามระยะทาง
ส่วน M9 ช่วงบางบัวทอง-บางปะอิน จะเป็นการปรับปรุงถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันตกระดับพื้นให้เป็นมอเตอร์เวย์ขนาด 6 ช่องจราจร จัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) คิดตามระยะทาง ส่วนทางคู่ขนานข้างละ 3 ช่องจราจร ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 ไม่มีการเก็บค่าผ่านทาง
@ต่อขยาย ดอนเมืองโทลล์เวย์ (M5) รอบอร์ด PPP เห็นชอบ
นอกจากนี้ ยังมีโครงการมอเตอร์เวย์ที่อยู่ในขั้นตอนที่รอเสนอคณะกรรมการ PPP เห็นชอบ คือ ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) (M5) ช่วงรังสิต-บางปะอิน ระยะทาง 22 กม. มูลค่าโครงการ 28,360 ล้านบาท
โครงการนี้ใช้รูปแบบการลงทุน PPP Gross Cost คือให้เอกชนลงทุนก่อสร้างงานโยธา บวกติดตั้งระบบ O&M และรับจ้างบริหารโครงการ โดยรัฐจ่ายคืนค่าลงทุนส่วนของงานโยธาและค่าลงทุนระบบ O&M และค่าจ้างงาน O&M ซึ่งในส่วนของค่าก่อสร้างงานโยธา จะใช้เงินจากกองทุนมอเตอร์เวย์จ่ายคืนเอกชน โดยจะเริ่มจ่ายค่างานโยธาเมื่องานก่อสร้างเสร็จแล้ว
ที่กำหนดรูปแบบการจ่ายคืนค่าก่อสร้างแบบนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานะการเงินกองทุนมอเตอร์เวย์ ที่ปัจจุบันมีภาระในการจ่ายค่าก่อสร้างงานโยธา สายบางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว (M82) อยู่ ประเมินว่าสายนี้จะสร้างเสร็จปี 2567 ซึ่งจะสามารถบริหารสถานะกองทุนได้คล่องตัว
@“นครปฐม-ชะอำ” แบ่งเฟส เร่งสร้างช่วงนครปฐม-ปากท่อ ก่อน
ส่วนโครงการมอเตอร์เวย์สายนครปฐม-ชะอำ (M8) ระยะทาง 109 กม. วงเงินลงทุน 79,006 ล้านบาท เดิมบอร์ด PPP อนุมัติแล้ว ลงทุนรูปแบบ PPP Net Cost แต่เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ จ.เพชรบุรีคัดค้านการก่อสร้าง ทล.จึงต้องทบทวนผลการศึกษาโครงการใหม่ การปรับปรุงแบบ ทบทวนค่าก่อสร้างและอยู่ระหว่างสรุปรูปแบบการลงทุน โดยแบ่งการก่อสร้างเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกช่วงนครชัยศรี-ปากท่อ ระยะทาง 61 กม. รวมวงเงินลงทุน 43,227.16 ล้านบาท (ค่าก่อสร้าง 29,156 ล้านบาท ค่างานระบบ 1,783.29 ล้านบาท ค่าเวนคืน 12,287.87 ล้านบาท จะดำเนินการก่อนเนื่องจากไม่ติดปัญหาเรื่องพื้นที่
คาดว่าจะทบทวนการศึกษาเสร็จในปี 2566 หลักการเส้นทางนี้จะเหมือนกับมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา คือ PPP Gross Cost โดยที่รัฐลงทุนงานโยธา และเอกชนลงทุนงานระบบ O&M โดยจะนำเสนอโครงการขออนุมัติ ครม.เพื่อดำเนินการในส่วนของงานโยธา ส่วนงานระบบ O&M จะเสนอบอร์ด PPP อนุมัติ
สำหรับมอเตอร์เวย์ สายนครปฐม-ชะอำ กรมทางหลวงพยายามผลักดัน เนื่องจากเส้นทางที่เชื่อมการเดินทางของ กทม.ด้านตะวันตกที่เมืองขยายตัวอย่างมาก มีปริมาณจราจรสูงจำเป็นต้องมีเส้นทางแนวใหม่ ที่รองรับปริมาณรถลงสู่ภาคใต้ และช่วยลดภาระของถนนพระราม 2 และมอเตอร์เวย์ 82 (ทางยกระดับพระราม 2) และโครงข่ายยังต่อเชื่อมกับมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) อีกด้วย