รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย รัฐบาลลุยลงทุนระบบขนส่งทางถนน มอเตอร์เวย์ ทางพิเศษ และ Missing Link เติมเต็มโครงข่ายเพิ่มความสะดวกการเดินทางประชาชน เชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านยกขีดความสามารถโลจิสติกส์หนุนการค้า ท่องเที่ยว
วันนี้ (25 ม.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การพัฒนาโครงการขนส่งทางถนนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศเป็นหนึ่งในระบบคมนาคมที่รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้ความสำคัญและเร่งขับเคลื่อนการลงทุน โดยมีเป้าหมายในการยกระดับความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน เพิ่มขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์ของประเทศให้สนับสนุนภาคเศรษฐกิจการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ เมกะโปรเจกต์หลายโครงการได้รับการอนุมัติและเร่งรัดการลงทุนในรัฐบาลปัจจุบัน ทั้งทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) เชื่อมส่วนกลางกับเมืองสำคัญในภูมิภาค ทางพิเศษ และ Missing Link เพื่อเติมเต็มโครงข่ายทางถนน แต่ละโครงการอยู่ระหว่างการเดินหน้าลงทุนตามแผนงาน ซึ่งเฉพาะปี 2566 นี้จะมีเงินลงทุนจากระบบขนส่งทางถนนทั้งสิ้น 30,960.32 ล้านบาท แยกเป็นการใช้จ่ายจากงบประมาณแผ่นดิน 11,207.32 ล้านบาท และนอกงบประมาณ 19,753 ล้านบาท
“นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงคมนาคมได้กำชับให้การลงทุนแต่ละโครงการดำเนินไปตามแผนงานเพื่อให้แล้วเสร็จเปิดให้ประชาชนใช้บริการตามกำหนด และให้เม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ระบบขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจตามเป้าหมายของรัฐบาลด้วย” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า โครงการมอเตอร์เวย์และทางพิเศษเพื่อเชื่อมโยงส่วนกลางไปยังภูมิภาค ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ประกอบด้วย มอเตอร์เวย์ M6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา การก่อสร้างงานโยธาคืบหน้าร้อยละ 98 ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตั้งระบบดำเนินงานและการบำรุงรักษาคาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2568, มอเตอร์เวย์ M81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ความคืบหน้างานโยธาร้อยละ 85 คาดว่า จะเปิดบริการเต็มรูปแบบปี 2568
ทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งลงไปยังภาคใต้ของไทย ความก้าวหน้าในภาพรวมอยู่ที่ร้อยละ 42.25 คาดว่าจะเปิดบริการในปี 2568 โครงการมอเตอร์เวย์ M82 สายบางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการทางพิเศษพระราม3ฯ ต่อขยายไปตามถนนพระราม 2 ช่วงที่ 1 บางขุนเทียน-เอกชัย คืบหน้าแล้วร้อยละ 77.22 ช่วงที่ 2 เอกชัย-บ้านแพ้ว คืบหน้าร้อยละ 10.24 คาดว่า จะเปิดบริการปี 2568
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับโครงข่ายถนนสายใหม่เชื่อมโยงภูมิภาคและประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ประกอบด้วย สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) จ.บึงกาฬ ถนนแนวใหม่เชื่อมศูนย์ซ่อมอากาศยาน-สะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 จังหวัดนครพนม ทั้ง 2 โครงการกำหนดการแล้วเสร็จในปี 2567
ทางด้านโครงการ Missing Link เพื่อเติมเต็มโครงข่ายทางถนนในภูมิภาคที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเดือน ต.ค. 65 และอยู่ระหว่างเตรียมการตามขั้นตอนเพื่อนำไปสู่การลงทุน ได้แก่ สะพานข้ามทะเลสาบสงขลา จ.สงขลาอำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา-อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง และ สะพานเชื่อมเกาะลันตา ตำบลเกาะกลาง-ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ซึ่งทั้ง 2 โครงการจะก่อสร้างระหว่างปี 2566-2568 เมื่อแล้วเสร็จจะเปลี่ยนแปลงการเดินทางของประชาชนให้ได้รับความสะดวกสบาย และสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นอกจากโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โครงการที่ได้รับอนุมัติจาก ครม. และอยู่ระหว่างเตรียมการลงทุนแล้ว ยังมีโครงการตามแผนงานในอนาคตอีกหลายโครงการ อาทิ มอเตอร์เวย์ เส้นทาง M7 ส่วนต่อขยายเชื่อต่อสนามบินอู่ตะเภา, M9 วงแหวนตะวันตกช่วงบางขุนเทียน-บางบัวทอง, M8 นครปฐม-ปากท่อ, M5 ส่วนต่อขยายยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) โครงการทางพิเศษ เช่น ทางพิเศษฉลองรัชส่วนต่อขยาย (จตุโชติ-ถ.วงแหวนรอบนอกฯ รอบที่ 3) ทางพิเศษสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ จังหวัดภูเก็ต ทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย และโครงข่ายเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 6 (อุบลราชธานี-สาละวัน) โครงการก่อสร้างทางแนวใหม่ อุดรธานี-บึงกาฬ เพื่อเชื่อมโยงสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 เป็นต้น