xs
xsm
sm
md
lg

ทช.-ทส.หารือ วางกรอบ MOU อนุรักษ์โลมาอิรวดี ตั้ง "ศูนย์การเรียนรู้" ดูแลทุกมิติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมทางหลวงชนบทประชุม คกก.ร่าง MOU อนุรักษ์ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและโลมาอิรวดีบริเวณทะเลสาบสงขลา ครั้งที่ 1 วางแนวปฏิบัติ เตรียมสร้างอาคารตั้ง "ศูนย์การเรียนรู้โลมาอิรวดี" ฝั่ง จ.พัทลุง ดูแลทุกมิติ

รายงานข่าวจากกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาการใกล้สูญพันธุ์ของโลมาอิรวดีบริเวณทะเลสาบสงขลาว่า วันที่ 7 พ.ย. 65 คณะกรรมการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ที่มีนายวีรเดช ชีวาพัฒนานุวงศ์ วิศวกรใหญ่ กรมทางหลวงชนบท (ด้านสำรวจและออกแบบ) เป็นประธาน และมีคณะกรรมการฯ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ผศ.ดร.รังสฤษฎ์ อินทรโม จากมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง ประชุมครั้งที่ 1 ได้มีความเห็นร่วมกันว่า กระทรวงคมนาคม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จะดำเนินการแบบบูรณาการร่วมเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในบริเวณทะเลสาบสงขลา โดยเฉพาะการใกล้สูญพันธุ์ของโลมาอิรวดี ทั้งในด้านการบริหารจัดการ การปฏิบัติงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง การสนับสนุนการประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้ เพื่อรองรับภารกิจหลักของทั้งสองฝ่าย โดยคาดว่าจะจัดให้มีพิธีลงนาม MOU ร่วมกัน ณ บริเวณโครงการก่อสร้างฯ ในเดือน ม.ค. 2566


นอกจากนี้ ยังได้ร่วมหารือเรื่องการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้โลมาอิรวดี ซึ่งกรมทางหลวงชนบทจะดำเนินการจัดออกแบบ และก่อสร้างอาคารศูนย์ฯ ชั่วคราวเป็นอาคารชั้นเดียว (ฝั่งพัทลุง) โดยจะมีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเป็นหน่วยงานบริหารจัดการศูนย์ฯ ชั่วคราว และในส่วนของกรมประมงจะมีการลาดตระเวนซึ่งมีความถี่ในการลาดตระเวนมากขึ้น เพื่อป้องกันการกระทำความผิดต่อโลมาอิรวดี

รวมถึงได้มีการกำหนดมาตรการป้องกันผลกระทบต่อโลมาอิรวดี และการกำหนดแผนอนุรักษ์โลมาอิรวดีในอนาคตอีกด้วย อย่างไรก็ตาม จะมีการจัดประชุมครั้งที่ 2 ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 เพื่อหาข้อสรุปในการร่วมกันจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) อย่างสมบูรณ์ต่อไป

นายวีรเดช ชีวาพัฒนานุวงศ์ วิศวกรใหญ่ กรมทางหลวงชนบท (ด้านสำรวจและออกแบบ)
ในส่วนของกรมทางหลวงชนบทได้กำหนดมาตรการในด้านการก่อสร้างเพื่อป้องกันผลกระทบต่อโลมาอิรวดี คือ ก่อนก่อสร้าง จะทำการศึกษาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมและนำผลที่ได้จากการศึกษามาดำเนินการเพื่อลดผลกระทบให้มากที่สุด, ระหว่างการก่อสร้าง สามารถปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์สิ่งแวดล้อมได้ และหลังการก่อสร้าง ทช.จะติดตามทุกมิติเพื่อที่จะพัฒนาประเทศชาติควบคู่ไปกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ซึ่งโครงการก่อสร้างฯ มีจุดเริ่มต้นอยู่บริเวณถนน พท.4004 กม.ที่ 3+300 บริเวณบ้านฝาละมี ตำบลจองถนน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง วางแนวข้ามทะเลสาบสงขลาไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เชื่อมต่อกับจุดสิ้นสุดโครงการที่ถนน อบจ.สงขลา บ้านแหลมยาง ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา มีช่วงข้ามทะเลสาบยาว 6.6 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้น 7 กิโลเมตร เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถพัฒนาโครงข่ายถนนในบริเวณดังกล่าวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น สามารถลดระยะเวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง และลดระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่าจะสามารถก่อสร้างได้ปลายปี 2566 และพร้อมเปิดให้ประชาชนใช้สัญจรได้ภายในปี 2569 ต่อไป


การทำ MOU เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา-อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือแนวทางการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงแก้ไขปัญหาการใกล้สูญพันธุ์ของโลมาอิรวดีในบริเวณทะเลสาบสงขลาอย่างใกล้ชิด


กำลังโหลดความคิดเห็น