“พาณิชย์” เคาะส่วนต่างโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง งวดที่ 12 ราคาพุ่งเกินประกันรายได้ที่ 2.97 บาทต่อกิโลกรัม ไม่ต้องจ่ายชดเชย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ที่มีอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธาน ได้เห็นชอบการกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2564/65 งวดที่ 12 สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังกับกรมส่งเสริมการเกษตรและระบุวันเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2563-31 มี.ค. 2565 และระบุวันคาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 1-31 ต.ค. 2565 และมีระยะเวลาเก็บเกี่ยวนับจากวันที่เพาะปลูกไม่น้อยกว่า 8 เดือน แต่ไม่เกิน 12 เดือน โดยราคาตลาดหัวมันสำปะหลังสดเชื้อแป้ง 25% เฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 2.97 บาท ไม่ต้องจ่ายชดเชยให้กับเกษตรกร เพราะราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงในครั้งนี้สูงกว่าราคาเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่กก.ละ 2.50 บาท
“การทำงานอย่างหนักของรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์สามารถผลักดันการส่งออกสินค้ามันสำปะหลังได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นที่ต้องการของตลาด วันนี้ราคามันสำปะหลังตามตลาดซื้อขายในพื้นที่ของเกษตรกรอยู่ระหว่าง 2.85-3.30 บาทต่อกิโลกรัมแล้ว ซึ่งนโยบายประกันรายได้ ทำให้เกษตรกรมีหลักประกันที่ดี และเมื่อบริหารจัดการได้ดี ก็ทำให้ราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลดีต่อเกษตรกรทั่วประเทศ” นายจุรินทร์กล่าว
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า สำหรับราคาตลาดเพื่อใช้ในการคำนวณส่วนต่าง ได้นำราคาที่ซื้อขายจริงในตลาดจาก 5 แหล่งผลิต ได้แก่ ราคาที่กรมการค้าภายในได้รับรายงานจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วัน ในแหล่งผลิตสำคัญ 14 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา กำแพงเพชร ชัยภูมิ กาญจนบุรี อุบลราชธานี นครสวรรค์ อุดรธานี ลพบุรี สระแก้ว เลย บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น และเพชรบูรณ์, ราคาสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย จาก 14 จังหวัด, ราคาสมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย ใน 10 เขตพื้นที่จำนวน 29 จังหวัด, ราคาสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย ครอบคลุมในพื้นที่ภาคตะวันออก และราคาสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยนำมาถ่วงน้ำหนักในอัตรา 25%, 25%, 25%, 10% และ 15% ตามลำดับ
ทั้งนี้ การจ่ายเงินส่วนต่างจะจ่ายทุกวันที่ 1 ของเดือน เป็นเวลา 12 เดือน โดยเริ่มจ่ายงวดแรกวันที่ 1 ธ.ค. 2564 จนงวดสุดท้ายวันที่ 1 พ.ย. 2565 ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง โดยเกษตรกร 1 ครัวเรือนจะใช้สิทธิได้ 1 ครั้ง
โดยการคำนวณผลผลิตที่จะได้รับการชดเชยจะใช้ปริมาณผลผลิตต่อไร่ย้อนหลัง 3 ปี (ปี 2561/62 ปี 2562/63 และปี 2563/64) ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เท่ากับ 3,388 กก./ไร่ คูณด้วยจำนวนไร่ตามที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้ แต่ไม่เกินครัวเรือนละ 100 ตัน
โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติการดำเนินโครงการวันที่ 25 ต.ค. 2564 กรอบวงเงิน 6,811 ล้านบาท และมีมาตรการคู่ขนาน ได้แก่ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลังปี 2564/65 วงเงิน 41.4 ล้านบาท โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปี 2564/65 วงเงิน 15 ล้านบาท โครงการชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต๊อกมันสำปะหลัง ปี 2564/65 วงเงิน 225 ล้านบาท และโครงการเพิ่มศักยภาพการแปรรูปมันสำปะหลัง ปี 2564/65 วงเงิน 10 ล้านบาท