อุบลราชธานี - อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรนำทีมสำรวจพื้นที่เสียหายจากน้ำท่วม พร้อมมอบปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกร กำชับเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจสรุปข้อมูลให้เร็วเพื่อบรรเทาเยียวยาเกษตรกร โดยนาข้าวที่เสียหายจะได้ 1,340 บาทต่อไร่ พืชไร่และพืชผัก 1,980 บาทต่อไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่นๆ 4,048 บาทต่อไร่
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นำคณะล่องเรือสำรวจความเสียหายพื้นที่เพาะปลูกตามลำแม่น้ำชี ในอำเภอเขื่องใน จ.อุบลราชธานี เพื่อเร่งฟืนฟูเยียวยาให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้ พร้อมพบปะกับชาวบ้าน
นายเข้มแข็งระบุว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ห่วงใยพี่น้องเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย ซึ่งจากรายงานข้อมูลถึงวันที่ 26 ตุลาคม 2562 มีพื้นที่ที่คาดว่าจะเสียหายทั่วประเทศประมาณ 5.1 ล้านไร่ เกษตรกรได้รับผลกระทบประมาณ 6.2 แสนราย จึงสั่งการให้กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อเสนอขอรับความช่วยเหลือให้แก่เกษตรกร พร้อมศูนย์ขยายพันธุ์พืชทั้ง 10 แห่ง ได้จัดเตรียมเมล็ดพันธุ์และต้นพันธุ์พืช ภายใต้โครงการผลิตพืชพันธุ์ดีสำรองใช้ในกรณีช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัย และใช้ในภารกิจของกรมส่งเสริมการเกษตรไว้พร้อมแล้ว
โดยทั้งหมดเป็นพืชอายุสั้นที่เกษตรกรสามารถนำไปปลูกเพื่อเป็นอาหาร ลดค่าใช้จ่ายในครอบครัว และเพิ่มรายได้ เช่น เมล็ดพันธุ์พืชผัก ประกอบด้วย พริก มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว ถั่วพู และกระเจี๊ยบเขียว ต้นพันธุ์พืชผักพืชอาหาร และต้นพันธุ์ไม้ผลไม้ยืนต้น
รวมทั้งศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านการอารักขาพืช (ศทอ.) 9 แห่ง ยังได้ดำเนินการจัดเตรียมเชื้อราไตรโคเดอร์มา ทั้งแบบพร้อมใช้ และหัวเชื้อขยาย พร้อมสนับสนุนเพื่อให้เกษตรกรนำใช้ในการฟื้นฟูป้องกันเชื้อสาเหตุโรคพืชสำหรับพื้นที่เพาะปลูกไม้ผลหลังน้ำลด
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่ไปพบปะให้กำลังใจและมอบปัจจัยการผลิตให้แก่พี่น้องเกษตรกรในจังหวัดศรีสะเกษ และอุบลราชธานี พบว่าพื้นที่บางส่วนระดับน้ำลดลงแล้ว และพื้นที่ที่คาดว่าจะเสียหายส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นาข้าว ทั้งนี้ การเยียวยาเกษตรกรจะเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยมีอัตราการช่วยเหลือ นาข้าว 1,340 บาทต่อไร่ พืชไร่และพืชผัก 1,980 บาทต่อไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่นๆ 4,048 บาทต่อไร่ และไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่