ม.หอการค้าไทยเปิด 10 ธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วง ครึ่งหลังปี 2565 “ธุรกิจการแพทย์และความงาม” คว้าแชมป์ร่วมกับ “ธุรกิจซื้อขายออนไลน์” ส่วนธุรกิจผลิตโทรศัพท์พื้นฐาน แฟกซ์ นำดาวร่วง
นายวชิร คูณทวีเทพ Executive Assistant และผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ทำการจัดอันดับ 10 ธุรกิจดาวรุ่ง ครึ่งหลังปี 2565 พบว่าธุรกิจการแพทย์และความงาม และธุรกิจ e-commerce หรือธุรกิจที่ทำการซื้อขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์ ยังคงเป็นธุรกิจดาวรุ่งต่อเนื่อง อันดับ 2 คือ ธุรกิจแพลตฟอร์ม (ธุรกิจตัวกลางหรือตลาดกลางด้าน อิเล็กทรอนิกส์) และธุรกิจโลจิสติกส์ delivery และคลังสินค้า อันดับ 3 ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต และธุรกิจอาหารเสริมและสุขภาพ อันดับ 4 ธุรกิจ E-Sports และธุรกิจ Social Media และ Online Entertainment อันดับ 5 ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ ธุรกิจ youtuber influencer และการรีวิวสินค้าและธุรกิจ Media ธุรกิจสื่อโฆษณา อันดับ 6 ธุรกิจเวชภัณฑ์ยา ธุรกิจการขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์ และธุรกิจด้าน fintech และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี และธุรกิจงานคอนเสิร์ต มหกรรมจัดแสดงสินค้า ธุรกิจ event อันดับ 7 ธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์ และธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน อันดับ 8 ธุรกิจ Modern Trade /ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ และธุรกิจสมุนไพรไทย เช่น กัญชง กัญชา ใบกระท่อม อันดับ 9 ธุรกิจสถานบันเทิงและธุรกิจยานยนต์ และอันดับ 10 ธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์แนวราบและธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ทัวร์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง
ส่วน 10 ธุรกิจดาวร่วง ประกอบด้วย 1. ธุรกิจผลิตโทรศัพท์พื้นฐานและเครื่องโทรสาร 2. ธุรกิจฟอกย้อม 3. ธุรกิจหัตถกรรมที่ไม่มีการออกแบบและราคาถูก 4. ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ และวารสาร 5. ธุรกิจรับส่งสื่อสิ่งพิมพ์ตามบ้านและสถานที่ทำงาน 6. ธุรกิจโรงพิมพ์ การพิมพ์ เช่น หนังสือ แผ่นพับ 7. ธุรกิจคนกลางและธุรกิจผลิตและขายต้นไม้ ดอกไม้ประดิษฐ์ 8. ธุรกิจ call center และธุรกิจเครื่องปั้นดินเผา และเซรามิก 9. ธุรกิจผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ไร้ฝีมือ หรือเสื้อผ้าโหล และ 10. ธุรกิจร้านเช่าหนังสือ ขายหนังสือ และธุรกิจร้านถ่ายรูป
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจการแพทย์และความงาม เป็นธุรกิจดาวรุ่งในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากคนหันมาใส่ใจสุขภาพ การดูแลเรื่องความสวย ความงาม การเปิดประเทศ ที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ส่วนธุรกิจออนไลน์ที่เป็นดาวรุ่งอันดับหนึ่งเหมือนกันนั้น เป็นเพราะผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อออนไลน์กันมากขึ้น มีระบบการจ่ายเงินที่สะดวก รวดเร็ว ทันสมัย สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง และมีผู้ให้บริการเพิ่มมากขึ้น
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากการเปิดประเทศ มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ภาครัฐมีมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพประชาชน การส่งออกดีขึ้น แต่ยังคงต้องระวังปัจจัยเสี่ยง เช่น สงครามรัสเซีย-ยูเครน ราคาน้ำมันตลาดโลก ต้นทุนการผลิตและการขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น การปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงนโยบาย เป็นต้น