นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ว่า เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังยังคงมีปัจจัยลบอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยสงครามรัสเซียยูเครนทำให้ราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์รวมถึงอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงยืดเยื้อมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ธนาคารกลางของประเทศเศรษฐกิจหลักปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปัญหาของการขาดแคลนสินค้าในห่วงโซ่การผลิตมีผลต่อการส่งออก และเศรษฐกิจจีนยังคงมีความไม่แน่นอนโดยมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงหลังการระบาดของโควิด-19 จนต้องใช้มาตรการ Zero COVID รวมถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีน อาจมีผลต่อการค้าโลกอีกครั้ง
ศูนย์พยากรณ์ฯ จึงปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงเหลือร้อยละ 3.1 จากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 4.2 การส่งออกคาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 6.3 และอัตราเงินเฟ้อขยายตัวร้อยละ 6.0 ภายใต้สมมติฐานที่เศรษฐกิจโลกเติบโตร้อยละ 2.9 จำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 6.1 ล้านคน อัตราแลกเปลี่ยน 34.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐและราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 110 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เบล แต่หากราคาพลังงานในตลาดโลกพุ่งสูงถึง 120-130 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะส่งผลกระทบทำให้ GDP ของประเทศลดลงเหลือร้อยละ 2.3 ได้