xs
xsm
sm
md
lg

RATCH เร่งศึกษาร่วมทุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟังเชงกัง เฟส 3 ในจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ราช กรุ๊ปเร่งศึกษาแผนการร่วมทุนโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟังเชงกัง ระยะที่ 3 ในจีน หลังดีลร่วมทุนก่อนหน้าล้มไม่เป็นท่า โดยจีนมีศักยภาพการลงทุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (RATCH) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าร่วมลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟังเชงกัง ระยะที่ 3-4 ในประเทศจีน หลังจากก่อนหน้านี้ต้องยุติดีลการร่วมทุนโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟังเชงกัง ระยะที่ 2 กำลังผลิตรวม 2,360 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการกว่า 200,000 ล้านบาท สืบเนื่องจากข้อจำกัดเงื่อนไขเรื่องการแบ่งทรัพย์สินสาธารณูปโภคระหว่างโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟังเชงกังระยะที่ 1 กับระยะที่ 2 ในประเทศจีน

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์นับเป็นพลังงานสะอาดที่ไม่ปล่อยคาร์บอน ซึ่งจีนมีการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากลดการลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินลงตามนโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ทั้งนี้ China General Nuclear Power Corporation (CGN) เป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟังเชงกัง ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 โดยมีแผนต้องการนำโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้มีปัญหาในการแยกทรัพย์สินระหว่างโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฯ ระยะที่ 2 กับโครงการฯ ระยะที่ 1 ที่ใช้สาธารณูปโภคร่วมกัน จึงต้องล้มเลิกการดึงราช กรุ๊ปเข้าร่วมลงทุนไป

อย่างไรก็ตาม CGN มีแผนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟังเชงกัง ระยะที่ 3 และระยะที่ 4 ขนาดกำลังผลิตไฟฟ้าเฟสละ 2,400 เมกะวัตต์ โดยมีการลงทุนด้านสาธารณูปโภคใหม่ แยกจากโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟังเชงกังระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ดังนั้นทาง CGN จึงได้เสนอให้ราช กรุ๊ปเข้าร่วมทุนโครงการดังกล่าวแทน

ก่อนหน้านี้ RATCH ลงนามสัญญาร่วมทุนเพื่อจัดตั้งบริษัท กวางสี ฟังเชงกัง นิวเคลียร์ เพาเวอร์ II  จำกัด (Guangxi Fangchenggang Nuclear Power (II)) ซึ่งจะเป็นผู้พัฒนา ก่อสร้าง และดำเนินงานโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟังเชงกัง ระยะที่ 2 โดย RATCH ลงทุนในนาม RATCH China Power Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ร่วมถือหุ้นในบริษัทร่วมทุน 10% ขณะที่ China General Nuclear Power Corporation (CGN) และ Guangxi Investment Group Company Limited (GIG) ถือหุ้น 51% และ 39% ตามลำดับ


กำลังโหลดความคิดเห็น