"ศักดิ์สยาม" นำนายฮวน คาร์ลอส ซาลาซาร์ เลขาธิการ ICAO เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เผยร่วมมือหนุนประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินที่สำคัญ ชี้มีศักยภาพทั้งในแง่ของการท่องเที่ยวและการค้า
วันที่ 5 เม.ย. 2565 ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำนายฮวน คาร์ลอส ซาลาซาร์ เลขาธิการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยในฐานะเป็นที่ตั้งของสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของ ICAO อย่างเป็นทางการครั้งแรกหลังจากได้รับตำแหน่งเลขาธิการ ICAO คนใหม่ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) พร้อมด้วยนายเต๋า หม่า ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของ ICAO และ ดร.แมนจิต ซิงห์ รองผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของ ICAO เข้าเยี่ยมคารวะในคราวเดียวกันนี้ด้วย
โดยนายฮวน คาร์ลอส ซาลาซาร์ เลขาธิการ ICAO รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะเป็นที่ตั้งของสำนักงานภูมิภาคของ ICAO และขอบคุณรัฐบาลไทยและกระทรวงคมนาคมที่ได้ให้การสนับสนุน ICAO ในการจัดตั้งสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ณ กรุงเทพฯ นับแต่ปี 2498 เป็นต้นมา รวมถึงการสร้างและปรับปรุงซ่อมแซมอาคารสำนักงานและอาคารหอประชุมฯ มาโดยตลอด ซึ่ง ICAO ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของประเทศไทยที่สามารถเป็นศูนย์กลางการบินที่สำคัญ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศทั้งในแง่ของการท่องเที่ยวและการค้า
นอกจากนี้ นายฮวน คาร์ลอส ซาลาซาร์ เลขาธิการ ICAO ได้กล่าวถึงความสำคัญและบทบาทของการบินพลเรือนระหว่างประเทศในการพลิกฟื้นอุตสาหกรรมการบินและเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่จะต้องให้ความสำคัญต่อการเดินทางอย่างปลอดภัยโดยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานด้านคมนาคมกับสาธารณสุข เลขาธิการ ICAO ชื่นชมการดำเนินการต่างๆ ด้านการบินพลเรือนของประเทศไทยในปัจจุบันที่มีความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมทั้งยืนยันถึงการให้ความร่วมมือและการสนับสนุนของ ICAO ต่อประเทศไทยต่อไป
ด้านนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณ ICAO ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุน ช่วยเหลือ และประสานงานอย่างดียิ่ง จนทำให้ไทยสามารถยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินพลเรือนสู่มาตรฐานสากล และได้กล่าวถึงบทบาทนำของ ICAO จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในห้วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการบินของไทยและทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยประเทศไทยได้ดำเนินการตามเอกสารแนะนำของคณะทำงาน ICAO (ICAO Council’s Aviation Recovery Task Force: CART) ที่ได้คิดค้นและพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเหลือประเทศสมาชิกในการดำเนินงานด้านการบิน เพื่อเร่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบินของไทยให้กลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็ว รวมถึงการมุ่งหวังจะให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญทั้งด้านมาตรฐานและความปลอดภัย
ในการนี้ หวังว่าประเทศไทยและ ICAO จะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนมุมมองในประเด็นต่างๆ ที่สนใจร่วมกันในเวทีต่างๆ อันจะนำไปสู่การส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองฝ่ายต่อไป