“ศักดิ์สยาม” สรุปแผนโอนสนาม ทย. 3 แห่งให้ ทอท.เสนอ ครม.เห็นชอบ เม.ย.นี้ รอขั้นตอนออกใบรับรองและโอนสิทธิ์ คาด MOU ให้ ทอท.เริ่มเข้าบริหาร กระบี่, อุดรธานี ส.ค. 65 ส่วนบุรีรัมย์เริ่ม ก.ย. 2565
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินการในการให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. บริหารจัดการท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) วันที่ 21 มี.ค.ว่า จากที่คณะกรรมการพิจารณากำหนดแนวทางวิธีการในการให้ ทอท.บริหารจัดการท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทย. ได้มีการประชุมไปแล้ว 2 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 และวันที่ 8 มีนาคม 2565 ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบข้อเสนอท่าอากาศยานที่จะให้ ทอท.เป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลและบริหารจัดการแทน ทย. ได้แก่ ท่าอากาศยานอุดรธานี บุรีรัมย์ และกระบี่ และเห็นชอบแนวทางการให้ ทอท.เป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลและบริหารจัดการท่าอากาศยานทั้ง 3 แห่งแทน ทย. และให้กระทรวงคมนาคมพิจารณานำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแนวทางการให้ทอท.บริหารสนามบินของ ทย.ภายในเดือนเมษายน 2565 นี้
โดยตามแผนการดำเนินงาน (Action Plan) ที่กำหนดคาดว่า ทอท.จะสามารถเริ่มให้บริการท่าอากาศยานกระบี่ และท่าอากาศยานอุดรธานีอย่างเป็นทางการได้ในเดือนสิงหาคม 2565 และเข้าบริหารท่าอากาศยานบุรีรัมย์อย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2565
ซึ่งขณะนี้ยังมีขั้นตอนที่ต้องดำเนินการ คือ กระบวนการออกใบรับรองการดำเนินงานสนามบิน โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และ ทย.ดำเนินการร่วมกัน, ดำเนินการเรื่องการโอนสิทธิ์เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ (ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) สังหาริมทรัพย์ (ครุภัณฑ์) และบุคลากร ช่วงเดือนเมษายน-สิงหาคม 2565 จากนั้นเป็นขั้นตอนโอนสิทธิ์ใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะ โดยทย.ยื่นเรื่องต่อ กพท.ขอโอนสิทธิ์ให้ ทอท. ซึ่ง กพท.ใช้เวลาพิจารณา 90 วัน
โดยประเมินว่า ทย.และ ทอท.จะสรุปความร่วมมือในการบริหารจัดการท่าอากาศยานร่วมกันในเดือน เม.ย. จากนั้น ประเมาณเดือนพฤษภาคม 2565 ทย.และ ทอท.จะลงนามใน MOU และเสนอ ครม.รับทราบความร่วมมือระหว่าง ทย.กับ ทอท.ในต้นเดือนมิถุนายน 2565
ทั้งนี้ คณะกรรมการพิจารณากำหนดแนวทางวิธีการในการให้ ทอท.บริหารจัดการท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทย.ได้พิจารณาในประเด็นความเหมาะสมในเชิงยุทธศาสตร์ ตามแนวคิดการพัฒนาโครงข่ายระบบท่าอากาศยานของประเทศในภาพรวม (National Airport System) และการดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Cluster ด้านการขนส่งทางอากาศ พบว่าท่าอากาศยานที่มีความเหมาะสมในการให้ ทอท.เข้าไปบริหารจัดการแทน ทย. ได้แก่ ท่าอากาศยานอุดรธานี บุรีรัมย์ และกระบี่
การให้ ทอท.เข้าไปบริหารจัดการท่าอากาศยานทั้ง 3 แห่งแทน ทย.จะเป็นการเพิ่มศักยภาพและใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานในภูมิภาคของ ทย. ที่ปัจจุบันมีบทบาทเป็น Local Airport ให้ยกระดับเป็น Regional Airport และ Secondary Hub Airport ในอนาคต และจะเปิดโอกาสให้สายการบินมีทางเลือกด้านการตลาดเส้นทางการบินระหว่างประเทศ รวมทั้งสามารถย้ายฐานการบินโดยกระจายไปยังภูมิภาคของประเทศเพื่อลดการต่อเครื่อง/ถ่ายลำ รวมทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกและเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้โดยสาร ตลอดจนช่วยลดปัญหาการบริการจราจรทางอากาศและขีดความสามารถของห้วงอากาศในเขตแถลงข่าวการบินกรุงเทพ บรรเทาความแออัดของท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) ในระดับภูมิภาค และระดับสากลต่อไป
โดยในการมอบความรับผิดชอบในการบริหารจัดการท่าอากาศยาน จำนวน 3 แห่ง ให้ ทอท.เข้าไปบริหารจัดการแทน ทย. ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะเสนอเรื่องต่อ ครม.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ให้ ทอท.เข้าไปเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลและบริหารจัดการท่าอากาศยานอุดรธานี บุรีรัมย์ และกระบี่แทน ทย. พร้อมทั้งแนวทางการดำเนินการฯ ด้านอื่นๆ ได้แก่ ด้านอสังหาริมทรัพย์ (ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) ด้านสังหาริมทรัพย์ (ครุภัณฑ์) ด้านบุคลากร ด้านการขอใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะ และด้านงบประมาณ ก่อนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามแนวทางฯ ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวต่อไป
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่เสนอ โดยให้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี และหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด