เชียงใหม่ - ท่าอากาศยานเชียงใหม่จัดพิธีทำบุญเนื่องในโอกาสครบรอบ 34 ปี พร้อมเผยผลดำเนินงานปี 2564 พบทั้งเที่ยวบินและผู้โดยสารลดลงไปเกินครึ่งเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ตามย่างเข้า ม.ค. 65 กลับมาดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และยังมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง ขณะที่โครงการแผนพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 แม้จะมีการทบทวนปรับเปลี่ยน แต่ก็ยังคงเร่งดำเนินการตามแผน คาดจะสามารถนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติงบประมาณได้ภายในปีนี้
วันนี้ (1 มี.ค. 65) นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทชม.ทอท.) เป็นประธานพิธีทำบุญเนื่องในโอกาสวันครบรอบ 34 ปี การดำเนินงานท่าอากาศยานเชียงใหม่มีผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ตลอดจนส่วนราชการและสายการบินที่ปฏิบัติงาน ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เข้าร่วมพิธีภายใต้มาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention For COVID-19) อย่างเคร่งครัด ซึ่งการจัดงานในปีนี้ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบ โดยงดการจัดกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดการสัมผัสใกล้ชิด คงไว้แต่เฉพาะพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และทำบุญตามประเพณีล้านนาเพื่อความเป็นสิริมงคล รวมทั้งจำกัดผู้เข้าร่วมงานเพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม
สำหรับท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นท่าอากาศยาน 1 ใน 6 แห่ง ภายใต้การกำกับดูแลของ ทอท.ได้รับโอนกิจการจากกรมการบินพาณิชย์มาอยู่ในความดูแลของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2531 และแปรสภาพเป็น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2545 โดยได้มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการให้บริการในทุกๆ ด้าน ภายใต้มาตรฐานสากลและค่านิยมหลัก 5 ประการ ได้แก่ ให้ใจ มั่นใจ ร่วมใจ เปิดใจ และภูมิใจ มีผลการดำเนินงานเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง เป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนหลักทางด้านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่มาโดยตลอด
กระทั่งในปี 2563 ได้เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจการบิน ส่งผลให้การดำเนินงานของท่าอากาศยานเชียงใหม่ในปี 2563 มีอัตราลดลงเป็นครั้งแรก และยังคงลดลงต่อเนื่องในปี 2564 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1. มีอากาศยานพาณิชย์ ขึ้น-ลง 16,051 เที่ยวบิน ลดลงจากปี 2563 ร้อยละ 59.32, 2. มีจำนวนผู้โดยสาร 1.76 ล้านคน ลดลงจากปี 2563 ร้อยละ 63.67 และ 3. มีปริมาณการขนถ่ายสินค้า 3,318 ตัน ลดลงจากปี 2563 ร้อยละ 32.47
อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 ถึงแม้สถานการณ์ระบาดของโรค COVID-19 ยังคงมีอยู่ แต่จากการกลายพันธุ์ของเชื้อโรคที่ลดความรุนแรงลง ประกอบกับความรู้ด้านการรับมือและจัดการกับโรคที่มากขึ้น ทำให้หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายการเดินทางระหว่างประเทศ และมีแนวโน้มการเดินทางโดยเครื่องบินมากขึ้น โดยจำนวนเที่ยวบินในเดือนมกราคม 2565 เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 84 เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2564 เช่นเดียวกับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 231 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วกว่าหนึ่งเท่าตัว
สำหรับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 ที่มีเป้าหมายรองรับผู้โดยสาร 16.5 ล้านคน ซึ่งเดิมจะเริ่มดำเนินการในปี 2563-2565 นั้น เนื่องจากเกิดการระบาดของโรค COVID-19 ทำให้มีการทบทวนและปรับเปลี่ยนแผนดำเนินการบางส่วน แต่ยังคงเดินหน้าดำเนินโครงการ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณารายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งดำเนินการควบคู่ไปกับการจ้างออกแบบ คาดว่าจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติงบประมาณในปี 2565 และดำเนินการก่อสร้างในปี 2566-2569 ต่อไป