"ประยุทธ์" เปิดทำเนียบหารือ ออท.คาซัคสถานฯ เห็นพ้องขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เพิ่มมูลค่าทางการค้าระหว่างกัน พร้อมแสวงหาความร่วมมือในสาขาที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองประเทศ
วันนี้ (31 มี.ค.) เวลา 14.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางสาวราอูชัน เยสบูลาโตวา (H.E. Ms. Raushan Yesbulatova) เอกอัครราชทูตคาซัคสถานประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้พบหารือกับเอกอัครราชทูตคาซัคสถานประจำประเทศไทยอีกครั้ง เชื่อมั่นว่าเอกอัครราชทูตคาซัคสถานฯ จะได้รับประสบการณ์ที่ดีตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง โดยไทยกับคาซัคสถานมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและราบรื่นมายาวนาน และจะครบรอบ 30 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปี 2565 นี้ โดยทั้งสองฝ่ายวางแผนจะจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองวาระสำคัญดังกล่าว อันจะเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ในระดับประชาชนของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายยังมีศักยภาพที่จะร่วมมือกันได้อีกมาก จึงหวังว่าทั้งสองจะร่วมกันแสวงหาแนวทางเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่าง ๆ มากขึ้น ทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องที่ยว ซึ่งขณะนี้ไทยได้เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านระบบ Test & Go เป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและการเดินทางระหว่างกัน
เอกอัครราชทูตคาซัคสถานประจำประเทศไทยกล่าวสวัสดีเนื่องในโอกาสปีใหม่ไทยที่จะถึงนี้ พร้อมอวยพรถึงรัฐบาลและประชาชนชาวไทยทุกคน โดยเอกอัครราชทูตคาซัคสถานฯ รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ดำรงตำแหน่งที่ประเทศไทย ได้รับประสบการณ์และความสุขตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง พร้อมขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกด้วยดีเสมอมา ตลอดจนเห็นพ้องกับนายกรัฐมนตรีในการเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้นในสาขาที่ทั้งสองมีศักยภาพ โดยเฉพาะด้านการค้าและการลงทุน ตลอดจนเพิ่มพูนการแลกเปลี่ยนการเยือนหว่างกันมากขึ้น
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ความมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับคาซัคสถานฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา มูลค่าการค้าของทั้งสองประเทศกลับมาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี และเชื่อมั่นได้ว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2565 โดยเฉพาะการค้าสินค้าประเภทฮาลาล ซึ่งคาซัคสถานเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และไทยมีการผลักดันเรื่องมาตรฐานอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด จึงขอให้ทางคาซัคสถานมั่นใจ ทั้งนี้ คาซัคสถานเป็นประเทศที่ไทยมีความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียกลาง โดยนายกรัฐมนตรีขอให้รัฐบาลคาซัคสถานช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนไทยในคาซัคสถาน พร้อมทั้งเชิญชวนให้นักลงทุนชาวคาซัคสถานเพิ่มพูนการลงทุนในไทยมากขึ้นในสาขาที่มีศักยภาพและเป็นที่ต้องการของทั้งสองประเทศ ซึ่งฝ่ายไทยยินดีและพร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนชาวคาซัคสถานในไทยเช่นกัน โดยเอกอัครราชทูตคาซัคสถานฯ กล่าวว่านักลงทุนชาวคาซัคสถานต้องการขยายการลงทุนในไทยเป็นจำนวนมาก พร้อมหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันผลักดันข้อตกลงเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้สามารถลงนามได้ในอนาคตอันใกล้นี้
นอกจากนี้ ทั้งสองได้หารือเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือพหุภาคี ภายใต้กรอบการประชุมว่าด้วยการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์และมาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย (Conference on Interaction and Confident Building Measures in Asia - CICA) ซึ่งทั้งสองเห็นพ้องกันว่าเป็นกรอบความร่วมมือที่มีความสำคัญต่อทั้งสองประเทศ โดยนายกรัฐมนตรียินดีกับคาซัคสถานในฐานะประธาน CICA วาระปี 2563 – 2565 ซึ่งไทยพร้อมมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ในฐานะผู้ประสานงานร่วมในมิติเศรษฐกิจ สาขาการส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และผู้ประสานงานในสาขาการพัฒนาที่ยั่งยืนในกรอบ CICA ตลอดจนพร้อมร่วมมือกับคาซัคสถานเพื่อขยายความร่วมมือในกรอบ CICA ต่อไป โอกาสนี้ ประธานาธิบดีคาซัคสถานได้ฝากความปรารถนาดี พร้อมเรียนเชิญนายกรัฐมนตรีเยือนคาซัคสถานอย่างเป็นทางการ เพื่อเข้าร่วมการประชุม CICA Summit ในช่วงเดือนตุลาคมปีนี้