SPRC เตรียมสรุปมูลค่าความเสียหายจากเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลในทะเลเพื่อแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เร็วๆ นี้ เผยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการหาสาเหตุและวางแผนในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในระยะกลางและระยะยาว พร้อมเดินหน้าจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ หลังจากจ่ายเงินช่วยเหลือจำนวนกว่า 5,600 ราย คิดเป็นวงเงิน 180 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 เวลา 21.06 น. บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ได้เกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ซึ่งตั้งอยู่ห่างชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ประมาณ 20 กิโลเมตร ในปริมาณ 39 ตันหรือทีม 47,000 ลิตร และเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์เกิดน้ำมันรั่วไหลจากท่อเดิมที่เสียหายอีก 5,000 ลิตร
นายโรเบิร์ต โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้ดำเนินการนำน้ำมันออกจากระบบจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) และเก็บกู้ท่อน้ำมันใต้ทะเลขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2565 นับเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการเก็บกู้ท่อน้ำมันใต้ทะเล บริษัทยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณ SPM เพิ่มเติมแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญและตำรวจเพื่อหาสาเหตุท่ออ่อนแตกทำให้เกิดน้ำมันรั่วไหล
ส่วนมูลค่าความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น บริษัทเตรียมแจ้งข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ SPRC ได้ร่วมกับจังหวัดระยองเพื่อจัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มอาชีพต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบมาทำการลงทะเบียนรับความช่วยเหลือ และได้ดำเนินการจ่ายเงินจนถึงวันนี้ บริษัทฯ ได้จ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่ได้ลงทะเบียนรับสิทธิจำนวนกว่า 5,600 ราย จากจำนวน 1.4 หมื่นราย รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นกว่า 180 ล้านบาท ทั้งนี้ SPRC ขอย้ำว่า SPRC มุ่งมั่นที่จะดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรม สมเหตุสมผล และรวดเร็ว ตลอดจนช่วยให้พี่น้องชาวระยองได้กลับมาใช้ชีวิตตามวิถีปกติอีกครั้ง
นายจิระศักดิ์ มหาสุคนธ์ ผู้จัดการโครงการเพื่อสังคม บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมแผนจัดกิจกรรมสนับสนุนชุมชนในระยะยาว โดยกิจกรรมต่างๆ จะถูกจัดขึ้นเพื่อฟื้นฟูแหล่งที่อยู่ของสัตว์น้ำใต้ทะเล ในขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ไปพร้อมกับฟื้นฟูภาพลักษณ์ของชุมชน อาทิ กิจกรรมวิ่งการกุศล "SPRC Run for You & Sea” ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2565 นี้ กิจกรรมส่งเสริมด้านการศึกษา อย่างเช่น โครงการ “Youth Bloggers” ซึ่งเยาวชนจะได้เรียนรู้การเขียนบทความเพื่อเผยแพร่บนเว็บไซต์ และการถ่ายภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว การเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียล เพื่อนำเสนอภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง ซึ่งในปัจจุบันมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์นี้
นายพงษ์กรณ์ ช่อชูวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายบริหารระบบความปลอดภัย คุณภาพสิ่งแวดล้อม และอาชีวอนามัย บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอาจารย์จาก 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยเพื่อประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น และจัดทำแผนฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมทางทะเลสำหรับการดำเนินการทั้งในระยะกลางและระยะยาว โดยบริษัทได้ดำเนินการติดตามและประเมินคุณภาพน้ำทะเล ตะกอนดิน สภาพพื้นที่ชายหาด และคุณภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน จากการประเมินคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ SPRC ได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถยืนยันได้ว่าปัจจุบันคุณภาพน้ำทะเล ตะกอนดินชายฝั่งทะเล และค่า VOC ในบรรยากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่มีความปลอดภัย ประชาชนสามารถทำกิจกรรมนันทนาการที่ชายหาด และในน้ำทะเลได้อย่างปลอดภัย และรวมถึงสามารถบริโภคอาหารทะเลได้อย่างปลอดภัยด้วย