นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้ทุกกระทรวงเร่งดำเนินการจัดทำแผนงานต่างๆ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่พี่น้องประชาชน ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงมอบของขวัญปีใหม่ภายใต้นโยบายสร้างสุขตลอดปี 2565 ประกอบด้วย หนึ่ง การจัดที่ดินอยู่อาศัย/ทำกินให้ชุมชน ตามนโยบายรัฐบาล คสช. ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 3.67 ล้านไร่ และพื้นที่ป่าชายเลน 23 จังหวัดชายฝั่งทะเล จำนวน 12,047 ไร่ สอง จัดหา พัฒนาแหล่งน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค โดยโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟู พัฒนาแหล่งน้ำและบริหารจัดการน้ำ จำนวน 97 แห่ง ครัวเรือนได้รับประโยชน์ 27,875 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 83,111 ไร่ สาม โครงการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพระบบกระจายน้ำ จำนวน 122 แห่ง ครัวเรือนได้ประโยชน์ 21,316 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 74,331 ไร่ สี่ จัดหาและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล จำนวน 1,247 แห่ง ประชาชนได้ประโยชน์ 247,676 ครัวเรือน/990,704 ราย ห้า ทุนสิ่งแวดล้อมสนับสนุนโครงการโคกหนองนาโมเดล วงเงิน 50 ล้านบาท ส่งเสริมเครือข่าย ทสม.ทั่วประเทศ จำนวน 100 โครงการ หก ส่งเสริมความรู้ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมผ่านแอปพลิเคชัน Green Digital Library และเจ็ด Application คำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสำหรับกิจกรรมในชีวิตประจำวันของบุคคล ซึ่งจะทำให้ประชาชนทราบถึงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ชีวิตประจำวันในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา เพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ช่วยกันลดก๊าซเรือนกระจก
“ของขวัญทั้ง 7 ข้อนี้เป็นความตั้งใจของรัฐบาลและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ต้องการสร้างความสุขให้แก่พี่น้องคนไทย เพื่อพี่น้องคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตามแนววิถีใหม่ ภายใต้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” นายวราวุธกล่าว
ด้าน นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) กล่าวต่ออีกว่า ตามที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันจัดทำกรอบแนวทางการสนับสนุนเงินกองทุนสิ่งแวดล้อม รวม 50 ล้านบาท ให้แก่เครือข่าย ทสม. 100 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถยื่นขอรับการสนับสนุนเพื่อนำไปจัดทำโครงการขนาดเล็ก วงเงิน 500,000 บาท ในประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญที่สอดรับกับนโยบายรัฐบาล กระทรวงฯ และสถานการณ์สิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ ประเด็นการจัดการไฟป่าและลดหมอกควัน และประเด็นโคก หนอง นา โมเดล และการทำเกษตรยั่งยืน
ขณะนี้มีความคืบหน้าเป็นไปตามที่ได้รับมอบหมาย และในปี พ.ศ. 2564 กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เปิดโอกาสให้เครือข่าย ทสม.ยื่นโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนเงินจากกองทุนสิ่งแวดล้อม ในประเด็นการจัดการไฟป่า และหมอกควัน มีโครงการได้รับอนุมัติรวม 47 แห่ง ใน 16 พื้นที่จังหวัดภาคเหนือ วงเงินรวมทั้งสิ้น 23,445,100 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการ ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2565 และจากที่ได้เปิดโอกาสให้ยื่นข้อเสนอในโครงการโคก หนอง นา โมเดล และการทำเกษตรยั่งยืนที่ครอบคลุมทั่วประเทศ จึงนับเป็นโอกาสดีที่เครือข่าย ทสม.จะได้เข้าถึงแหล่งทุนมากขึ้น เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสนับสนุนการทำงานให้เกิดความคล่องตัวและสามารถนำไปใช้ขยายผลการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
“ก้าวต่อไปอาจมีการเพิ่มการสนับสนุนเงินจากกองทุนสิ่งแวดล้อมในประเด็นอื่น เช่น การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่ให้ความสำคัญต่อการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และแก้ไขปัญหาโลกร้อนที่เกิดจากกิจกรรมที่ทำอยู่ในพื้นที่ เช่น การลดและคัดแยกขยะ การปลูกป่า นอกจากนี้ ยังมีเงินกองทุนระหว่างประเทศสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate Fund) จำนวน 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อปีให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งเครือข่าย ทสม.สามารถเสนอโครงการขอรับเงินจากกองทุนได้เช่นกัน” อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมกล่าวในที่สุด
อนึ่ง ในวันที่ 27 ธ.ค. 2564 เวลา 09.00 น. กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานโครงการส่งเสริมเครือข่าย ทสม.ในการดำเนินงานโคกหนองนาโมเดล และการทำเกษตรกรรมยั่งยืนผ่านการประชุมออนไลน์ทางแอปพลิเคชันซูม โดยสาระสำคัญประกอบด้วย การประชุมชี้แจงทิศทางและกรอบการสนับสนุนการทำงานของเครือข่าย ทสม.ในการเข้าถึงเงินกองทุนสิ่งแวดล้อม และการชี้แจงกรอบแนวทางและแผนโครงการส่งเสริมเครือข่าย ทสม.ในการดำเนินงานโคกหนองนาโมเดล และการทำเกษตรกรรมยั่งยืน พร้อมเปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัยต่างๆ เป็นต้น ทั้งหมดนี้เพื่อให้เครือข่าย ทสม.ได้เข้าใจถึงขั้นตอนและแนวทางยื่นขอรับการสนับสนุนเงินจากกองทุนสิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่การจัดทำโครงการได้ตรงตามเป้าหมายและเกิดประโยน์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีตามแนววิถีใหม่ภายใต้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน