กรมป่าไม้ได้จัดให้มีการสัมมนาออนไลน์ เรื่อง “การพัฒนาศักยภาพผู้นำเครือข่ายป่าชุมชน” เพื่อขับเคลื่อนการทำงานของเครือข่ายป่าชุมชนให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย อันจะนำไปสู่การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติในป่าชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ และความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศมีความสมบูรณ์และยั่งยืน โดยมีผู้เข้าร่วมการสัมมนาออนไลน์จำนวน 1,000 คน ประกอบด้วย ประธานเครือข่ายป่าชุมชน ตัวแทนสมาชิกเครือข่ายป่าชุมชนจาก 68 จังหวัดจากทั่วประเทศ รวมจำนวน 400 คน ภาคเอกชนและสื่อมวลชน 25 คน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานด้านป่าชุมชนจำนวน 575 คน
ในการนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการสัมมนาฯ และปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “ปี 2565 เป็นปีแห่งการปรับตัวและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม”
ทั้งนี้ นายวราวุธแสดงปาฐกถาพิเศษว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบด้านการอนุรักษ์ คุ้มครอง ฟื้นฟู และใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยบูรณาการ และสร้างการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ รักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อม และอำนวยประโยชน์อย่างยั่งยืน ภายใต้นโยบาย “ทส.ยกกำลังเอ็กซ์” มองไปข้างหน้าอย่างไร้ขีดจำกัด มุ่งสู่วิสัยทัศน์” ที่ช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามแนววิถีใหม่ ภายใต้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ด้วยการมุ่งเดินหน้าใน 2 เป้าหมายหลัก ได้แก่
“เป้าหมายที่ 1 การสร้างเศรษฐกิจครัวเรือน สังคมมีสุข ชุมชนเข้มแข็ง ประกอบด้วย การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนเพิ่มเติมภายใต้โครงการ คทช. จัดสรรที่ดินทำกินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามกฎหมายใหม่ให้ได้ 1.78 ล้านไร่ 2,700 หมู่บ้านทั่วประเทศ ควบคู่การสร้างป่าชุมชน เพื่อเป็นแหล่งรายได้ให้ชุมชน
เป้าหมายที่ 2 การมุ่งสู่เศรษฐกิจแบบใหม่ (BCG Model) และสังคมคาร์บอนต่ำ ประกอบด้วยการส่งเสริมเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) การส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) การส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียวหรือ Bio Circular Green Economy เป็นหัวใจที่จะต้องทำเพื่อฟื้นสภาพเศรษฐกิจและสามารถแข่งกับนานาประเทศ
“การสัมมนาที่กรมป่าไม้จัดขึ้นในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญเพื่อเตรียมความพร้อมของเครือข่ายป่าชุมชน และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน สู่การฟื้นฟูและปรับตัวในปี 2565 ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับตัวการทำงานรูปแบบใหม่ในหลายมิติไปพร้อมกับการสร้างรายได้ให้ชุมชน รวมไปถึงความสำคัญของพื้นที่ป่าชุมชนซึ่งเป็นแหล่งดูดซับก๊าซเรือนกระจกให้แก่ประเทศไทย เพื่อการแบ่งปันคาร์บอนเครดิต และเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำประเทศไทยไปสู่การเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในอนาคต” นายวราวุธกล่าว
นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า “ในส่วนของกรมป่าไม้นั้น ได้ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยเปิดโอกาสให้ชุมชนที่อยู่รอบๆ ป่าเข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ในการจัดตั้งป่าชุมชน โดยมีหน้าที่และสิทธิตามที่กฎหมายป่าชุมชนกำหนด ซึ่งสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมินิเวศในแต่ละท้องที่ และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวในที่สุด