xs
xsm
sm
md
lg

เตือนประชาชนบริการให้เช่าเต็นท์นอนในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต คุก 2 ปี ปรับ 2 แสน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - กรมอุทยานฯ สบอ.3 (บ้านโป่ง) เตือนประชาชนบริการให้เช่าเต็นท์นอนในพื้นที่ผ่อนปรนตามมติ ครม. 30 มิ.ย.41 ในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต คุก 2 ปี ปรับ 2 แสน

วันนี้ (8 ธ.ค.) นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ตามที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีนโยบาย ทส.ยกกำลังเอกซ์ โดยให้ปราบปรามนายทุนผู้บุกรุกป่าอย่างเด็ดขาด และให้มุ่งสร้างความมั่นคง ทางฐานทรัพยากร สู่ความมั่นคงของชุมชนในระดับฐานราก ให้กินดีอยู่ดี มีรายได้มั่นคง มีเศรษฐกิจชุมชนที่ดี เพื่อความสุขของพี่น้องคนไทยทุกคน
 
จากนโยบายดังกล่าว ตนในฐานะผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พร้อมนายพีรวัฒิ สิโรตม์พิพัฒ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ นายสำราญ สุนทราลัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านบนเขาแก่งเรียง ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ได้เดินทางไปที่ไร่ย่าแย้ม ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เนื้อที่ 44 ไร่ ของนางแย้ม พันธวงศ์ อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 บ้านบนเขาแก่งเรียง หมู่ที่ 3 ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี
 
ซึ่งเป็นพื้นที่ที่นางแย้ม ได้แจ้งการครอบครองขอผ่อนปรนให้อยู่อาศัยทำกินในเขตอุทยานแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรี 30 มิถุนายน 2541 อยู่ในแปลงพิสูจน์สิทธิ (CN3) ตามบัญชีรายชื่อลำดับที่ 132 ซึ่งมติคณะมนตรี ดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือราษฎรในท้องถิ่นที่ได้ครอบครองและอยู่อาศัยทำกินก่อนประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ หรือหลังประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ แต่ต้องอยู่อาศัยและทำกินก่อนปี พ.ศ.2557 รวมทั้งต้องทำประโยชน์อย่างต่อเนื่อง และต้องไม่มีที่ดินทำกินที่อื่นอีกด้วย
 
โดยตนได้แจ้งให้นางแย้ม ทราบว่า พื้นที่ผ่อนปรนตามมติคณะมนตรี 30 มิถุนายน 2541 ในเขตอุทยานแห่งชาติ ไม่สามารถนำไปทำกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวได้ เช่น การให้เช่าเต็นท์พักแรม ฉะนั้น จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2562 มาตรา 19(6 ) ห้ามมิให้เข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ในเขตอุทยานแห่งชาตินั้น จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะต้องถูกประกาศคำสั่งขับไล่ ตามมาตรา 35 (1) พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2562 ขับไล่ไปให้พ้นจากเขตอุทยานแห่งชาติ หากฝ่าฝืนไม่ยอมออกไปจากพื้นที่ มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ และปรับอีกวันละไม่เกิน 1 หมื่นบาท จนกว่าจะออกไปพ้นจากเขตอุทยานแห่งชาติ
 
นอกจากนี้ ยังแจ้งให้นางแย้ม ทราบเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันได้มีมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ฉบับใหม่ 2562 เปิดโอกาสให้ประชาชนทำกิจการการท่องเที่ยวที่เป็นประโยชน์ในเขตอุทยานแห่งชาติได้แต่ต้องไม่ก่อเกิดความเสียหายอุทยานแห่งชาติ ขณะนี้อนุบัญญัติของกฎหมาย และระเบียบดังกล่าว กำลังจะออกมาบังคับใช้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างยิ่ง หลังจากอนุบัญญัติของกฎหมายและระเบียบดังกล่าวออกมาบังคับใช้แล้ว จึงจะสามารถดำเนินการขออนุญาตได้ หรืออีกกรณีหนึ่งต้องไปประสานกับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อาจขอให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ จัดทำเป็นเขตบริการ โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เสียก่อน และจะต้องได้รับการประชาคมจากชุมชน และประชาชนที่มีส่วนได้เสียด้วย
 
ขอเตือนว่า เวลานี้หากยังไม่ได้รับอนุญาตดำเนินการกิจการที่เป็นประโยชน์ในเขตอุทยานแห่งชาติ หากมีการฝ่าฝืนจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีโทษจำคุกและปรับ และถูกขับไล่ออกจากพื้นที่ด้วย นายนิพนธ์ กล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น