“จุรินทร์” เดินหน้า “โครงการสร้างรายได้ด้วยแฟรนไชส์ ฝ่าโควิด-19” ยกขบวนแฟรนไชส์ไปจัดแสดงและเปิดขายให้แก่ประชาชนที่ว่างงาน ต้องการสร้างงาน สร้างอาชีพ รวม 15 จังหวัด ช่วงเดือน ต.ค. ก่อนปิดท้ายที่กรุงเทพฯ เดือน ธ.ค. เผยจัดโปรฯ ลดราคาพิเศษ และจับคู่กู้เงินให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ด้วย คาดช่วยสร้างอาชีพไม่ต่ำกว่า 10,000 ราย มูลค่าซื้อขายไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเปิดตัวโครงการสร้างรายได้ด้วยแฟรนไชส์ ฝ่าโควิด-19 ปี 2564 ที่กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับนายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และผู้บริหารสถาบันการเงินและหน่วยงานพันธมิตร ว่า โครงการนี้มี 2 กิจกรรมที่จะดำเนินการ คือ การจัดกิจกรรมแฟรนไชส์สร้างอาชีพโรดโชว์ใน 15 จังหวัดทั่วทุกภาค ยกขบวนแฟรนไชส์ไปจัดแสดงและขายแฟรนไชส์ รวม 15 จังหวัด ตลอดเดือน ต.ค. 2564 และจะจัดกิจกรรมรวมเป็นงานใหญ่ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้กิจกรรม MOC แฟรนไชส์สร้างอาชีพ โดยจัด 5 วัน ช่วงเดือน ธ.ค. 2564 มีแฟรนไชส์กว่า 400 รายเข้าไปร่วม และจะมีการประชาสัมพันธ์ธุรกิจแฟรนไชส์ และขายแฟรนไชส์ในงานนั้นด้วย ที่สำคัญคือ จะมีการขายแฟรนไชส์ในราคาพิเศษ และจะมีโครงการจับคู่กู้เงินระหว่างสถาบันการเงินกับแฟรนไชส์เกิดขึ้นด้วย
ทั้งนี้ โครงการสร้างรายได้ด้วยแฟรนไชส์ฝ่าโควิด-19 จะมีส่วนช่วยในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจและการสร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจ ภายใต้วิกฤตโควิด-19 ในปัจจุบัน โดยจะช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และลดอัตราการว่างงานให้แก่ประชาชน ผู้ประกอบการ SMEs และ Micro SMEs ซึ่งเป็นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ รวมทั้งช่วยให้ธุรกิจแฟรนไชส์มีการขยายตัวเติบโตได้เพิ่มขึ้น
“ผลที่จะเกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรมจะช่วยให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาซื้อแฟรนไชส์ได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ราย จะช่วยให้ก่อเกิดการขายแฟรนไชส์ หรือไลเซนส์แฟรนไชส์เฉพาะงานนี้ 1,500 ล้านบาท แต่มูลค่าทั้งปีคาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 4,600 ล้านบาท” นายจุรินทร์กล่าว
ปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีมูลค่าตั้งแต่หลัก 2,000 บาท ไปถึงหลัก 10 ล้านบาท มีแฟรนไชส์ของคนไทยจำนวน 597 แฟรนไชส์ มูลค่าการตลาดเฉลี่ยปีละ 300,000 ล้านบาท กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ โดยแฟรนไชส์ 557 ธุรกิจมีผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ไป 42,000 รายทั่วประเทศ
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า โครงการนี้มีความสำคัญ เพราะจะช่วยเหลือ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ของโควิด-19 โดยนำธุรกิจแฟรนไชส์มาเป็นทางเลือกในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ผู้ที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง โดยมีหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ สมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ และสถาบันการเงินทั้งภาครัฐและเอกชนที่เข้ามาร่วมมือในการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์