นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ยอดการจดทะเบียนนิติบุคคลจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ ในเดือนสิงหาคม 2564 มีจำนวน 5,553 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 11,833.29 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 656 ราย คิดเป็นร้อยละ 12 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 237 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 และอันดับ 3 คือ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึง คนโดยสาร จำนวน 203 ราย คิดเป็นร้อยละ4 ส่งผลให้ยอดรวมจดทะเบียนตั้งใหม่ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 25 (มกราคม-สิงหาคม 2564) รวมทั้งสิ้น 52,236 ราย
ขณะที่ยอดธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนสิงหาคม 2564 มีจำนวน 1,176 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 4,832.30 ล้านบาท ถือว่าสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สำหรับประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 103 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 68 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และธุรกิจการให้คำปรึษาด้านบริหารจัดการ จำนวน 37 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ส่งผลให้มียอดธุรกิจเลิกกิจการในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2564 ทั้งสิ้น 7,246 ราย และมีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนสิงหาคม 2564 ทั่วประเทศ 807,531 ราย มูลค่าทุน 19.31 ล้านล้านบาท
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ถือเป็นประเด็นสาคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบธุรกิจที่มีการชะลอตัวเพื่อติดตามสถานการณอ์ยู่ในขณะนี้ แต่การผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา และจำนวนผู้ได้รับวัคซีนในประเทศที่เพียงพอ จะเป็นปัจจัยที่สร้างความเชื่อมั่นที่ดีในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งการฟื้นตัวของการส่งออก และมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เป็นปัจจัยเสริมที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น กรมฯ ยังมั่นว่าในช่วงเวลาที่เหลือยอดการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ทั่วประเทศในปีนี้จะมีโอกาสที่ 65,000-70,000 ราย อย่างแน่นอน