กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มอบใบประกาศนียบัตรให้ธุรกิจแฟรนไชส์ไทยที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจประจำปี 2564 จำนวน 34 ราย เพื่อสร้างความมั่นใจว่าได้ผ่านการพัฒนาศักยภาพด้านการบริหารจัดการธุรกิจอย่างเป็นระบบและมาตรฐานเทียบเท่าสากล พร้อมชูให้เป็นแฟรนไชส์ต้นแบบ ช่วยจูงใจให้ นักลงทุนรายใหม่ที่กำลังมองหาธุรกิจตัดสินใจเลือกลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ได้เร็วและมีจำนวนมากขึ้น หวังใช้โมเดลแฟรนไชส์ที่มีคุณภาพมาตรฐานมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหลังโควิด-19 เบาบางลง
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ธุรกิจแฟรนไชส์จะมีความน่าเชื่อถือหรือไม่นั้น ต้องดูว่าธุรกิจนั้นได้ผ่านกระบวนการสร้างมาตรฐานมามากน้อยเพียงใด เพราะธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีมาตรฐานจะเป็นรากฐานเสริมสร้างความเข้มแข็งและความเจริญเติบโตให้กับธุรกิจ ดังนั้น มาตรฐานแฟรนไชส์จึงเป็นเรื่องสำคัญในลำดับต้นๆ ที่ผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ต้องให้ความสำคัญไม่ว่าจะเป็นระบบการปฏิบัติงาน คุณภาพของสินค้า และมาตรฐานการให้บริการ รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแฟรนไชส์ซอร์ (เจ้าของแบรนด์) และแฟรนไชส์ซี (ผู้ซื้อสิทธิแฟรนไชส์) ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้เป็นเกณฑ์มาตรฐานแฟรนไชส์ที่เป็นตัวชี้วัดว่าธุรกิจจะมีโอกาสเติบโตได้หรือไม่
“กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ความสำคัญกับการยกระดับธุรกิจแฟรนไชส์ไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยให้การส่งเสริมและพัฒนาทั้งตัวธุรกิจและผู้ประกอบการควบคู่กันมาโดยตลอด และในปี 2564 นี้ได้เดินหน้าจัดกิจกรรม “การยกระดับมาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์” ซึ่งกำหนดคุณสมบัติให้ธุรกิจแฟรนไชส์ทุกกิจการที่เข้าร่วมกิจกรรมต้องดำเนินธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคล ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเรียบร้อยแล้ว และมีศักยภาพเพียงพอที่จะได้รับการพัฒนายกระดับธุรกิจสู่เกณฑ์มาตรฐาน"
"โดยทุกรายจะได้เข้าร่วมกิจกรรมการบ่มเพาะ องค์ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ ได้รับคำปรึกษาแนะนำ (Coaching) เชิงลึก ได้รับสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่าย (Network) เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการถ่ายทอดประสบการณ์ระหว่างกัน รวมไปถึงได้เข้าไปศึกษาดูงาน ณ สถานประกอบการของแฟรนไชส์ต้นแบบ (Best Case) และปิดท้ายด้วยการตรวจประเมินผลการพัฒนาเพื่อขอการรับรองมาตรฐานฯ โดยในปีนี้มีธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานฯ จำนวน 34 กิจการ แบ่งตามกลุ่มธุรกิจ ดังนี้ ธุรกิจอาหาร จำนวน 14 ราย ธุรกิจเครื่องดื่ม จำนวน 6 ราย ธุรกิจบริการ จำนวน 6 ราย ธุรกิจการศึกษา จำนวน 5 ราย และธุรกิจความงาม จำนวน 3 ราย”
อธิบดีกล่าวเพิ่มเติมว่า “การมอบใบประกาศนียบัตรแก่ธุรกิจที่ผ่านการยกระดับมาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ นับเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดความสำเร็จของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ได้มุ่งมั่นพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์มาอย่างต่อเนื่อง เป็นการยกระดับศักยภาพของธุรกิจและช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รองรับการขยายตัวของธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ ที่สำคัญมีส่วนในการสร้างแฟรนไชส์ไทยที่มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ มีมาตรฐานคุณภาพเทียบเท่ามาตรฐานสากล อันจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจต่อสายตาของนักลงทุน ช่วยให้แฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซีมีโอกาสเติบโตไปพร้อมๆ กัน จนสามารถขยายสาขาเพิ่มขึ้นและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตต่อไป”