นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ยอดจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศประจำเดือนกรกฎาคม 2564 มีจำนวน 5,661 ราย ลดลง ร้อยละ 0.11 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ก่อน แต่หากเทียบเดือนมิถุนายน 2564 ลดลงร้อยละ 7 โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 13,543.18 ล้านบาท ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 593 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 240 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 และอันดับ 3 คือ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้า รวมถึงคนโดยสาร จำนวน 231 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 ตามลำดับ
ขณะที่ยอดธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนกรกฎาคม 2564 มีจำนวน 1,140 ราย โดยเป็นธุรกิจเลิกสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 97 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 65 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 35 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ตามลำดับ ทำให้ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนกรกฎาคม 2564 ทั่วประเทศ จำนวน 807,283 ราย มูลค่าทุน 19.66 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตาม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้วิเคราะห์การจดทะเบียนธุรกิจเดือนกรกฎาคม 2564 ที่ลดลงมีผลมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้รัฐบาลต้องมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในการจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น การหยุด การก่อสร้าง การงดรับประทานอาหารในร้านอาหาร และมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยมีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ซึ่งแยกเป็นธุรกิจก่อสร้างทั่วไป ลดลง 56 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ลดลง 61 ราย และธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึงคนโดยสาร ลดลง 9 ราย ถือเป็นไปในทิศทางเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย ในเดือนกรกฎาคม 2564 ซึ่งอยู่ที่ 41.4 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า
ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบธุรกิจที่มีการชะลอตัวเพื่อติดตามสถานการณ์อยู่ในขณะนี้ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่เริ่มลดลง และจำนวนผู้ได้รับวัคซีนในประเทศที่เพียงพอจะเป็นปัจจัยที่สร้างความเชื่อมั่นที่ดีในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งการฟื้นตัวของการส่งออก และมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่อยู่ระหว่างการพิจารณา จะเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นด้วยปัจจัยดังกล่าวกรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังเชื่อว่ายอดการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในปีนี้น่าจะเกินกว่า 60,000 รายขึ้นไปได้แน่นอน
