นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายนราพัฒน์ แก้วทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ราชการจังหวัดสุโขทัย และนายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ อดีต ส.ส.สุโขทัย เขต 1 นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล อดีต ส.ส.สุโขทัย เขต 2 ติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ณ วัดปากแคว อําเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย โดยมีพาณิชย์และเกษตร 17 จังหวัดภาคเหนือ ร่วมรับนโยบายผ่านทาง Zoom จากสุโขทัยด้วย
นายจุรินทร์ กล่าวว่า มาลงพื้นที่พบประชาชนเพราะได้รับการประสานงานจาก นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ อดีต ส.ส.สุโขทัย เขต 1 และนายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล อดีต ส.ส.สุโขทัย เขต 2 เป็นห่วงพี่น้องประชาชน ซึ่งนอกจากตั้งใจมาเยี่ยมพี่น้องแล้ว ก็มาติดตามโครงการสำคัญ คือ โครงการประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นเงื่อนไขสำคัญก่อนเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ได้ดำเนินการนโยบายประกันรายได้เกษตรกรมาครบ 2 ปีเต็มแล้ว ปีนี้จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 เพราะถ้าไม่มีประกันรายได้ เวลาข้าวราคาลง จะมีรายได้ทางเดียวคือ จากที่ขายตามราคาตลาด แต่ถ้ามีประกันรายได้ จะมีรายได้ 2 ทาง คือ 1. เอาข้าวไปขายที่โรงสีในราคาตลาด และ 2. ส่วนต่างจากรายได้ที่รัฐบาลประกัน รวมแล้วตามรายได้ที่ประกัน นี่คือนโยบายที่ช่วยแก้ปัญหาให้พี่น้องในยามที่พืชเกษตรราคาตก โดยเฉพาะวิกฤตน้ำท่วมเช่นวันนี้ ชัดเจนว่าเมื่อมีหลักประกันรายได้แล้วทำให้เกษตรกรมีทางรอด
“สำหรับปีที่ 3 นี้ ตนได้ลงนามเสนอคณะรัฐมนตรีไปเกือบทั้ง 5 ตัวแล้ว เพื่อที่จะได้เดินหน้าประกันรายได้เกษตรกรปี 3 ต่อไป ช่วยกันยามที่พืชทั้ง 5 ชนิดราคาตก และเตรียมเงินไว้ วันนี้ถือโอกาสมารายงาน สำหรับข้าวเตรียมเงินไว้ 150,000 ล้านบาท มันสำปะหลังเตรียมไว้ 7,100 ล้านบาท ข้าวโพด เตรียมเงินไว้ 1,900 ล้านบาท ปาล์ม 8,000 ล้านบาท ยางพารา 10,000 ล้านบาท รวม 178,000 ล้านบาท และสำหรับกรณีน้ำท่วมที่นา เสียหายให้รีบรายงานเกษตรจังหวัด กำนันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อรวบรวมตัวเลขเสนอ ครม.จ่ายเงินชดเชยให้และฝากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งรัดจ่าย และข้าวยังได้รับเงินส่วนต่างอยู่ในกรณีที่น้ำท่วม ให้พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด ได้รับทราบด้วยและเร่งรัดดำเนินการให้ชาวบ้านทราบ” นายจุรินทร์ กล่าว
จากนั้น นายจุรินทร์ ใช้โอกาสในการถ่ายทอดสดเฟซบุ๊ก และ Zoom แจ้งทั้งพาณิชย์และเกษตรจังหวัด ให้รับทราบถึงการเดินหน้านโยบายและการขึ้นทะเบียน พร้อมตอบข้อซักถามจากเกษตรกรทุกข้อ จากนั้นช่วงหนึ่งมี นางกันทิมา กิมขาว ชาวบ้านหมู่ที่ 1 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย ประกอบอาชีพทำนา ทำไร่ข้าวโพด ได้ขอจับมือนายจุรินทร์ และกล่าวว่า...
“วันนี้พายเรือมาเพื่อพบกับท่านรองนายกฯ ขอจับมือหน่อย” เมื่อจับแล้วนายจุรินทร์ ถามว่า เป็นอย่างไร ชาวบ้านคนนั้นกล่าวตอบว่า “จับแล้วอุ่นใจ” จากนั้นนายจุรินทร์ได้ให้กำลังใจ พร้อมประกาศเดินหน้านโยบายประกันรายได้ ปี 3 ต่อไป โดยยืนยันว่าโครงการนี้ต้องเดินหน้าเพราะเป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาเมื่อตอนเข้าร่วมรัฐบาลโดยเป็นเงื่อนไขการเข้ามาทำงานให้ประชาชนในเรื่องนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ และถือว่าเป็นนโยบายรัฐบาลที่สำเร็จมาแล้ว 2 ปี ก่อนจะไปเตรียมงบประมาณและขั้นตอนเพื่อเดินหน้าปี 3 ต่อไป
ประกันรายได้ช่วยเกษตรกร 8 ล้านครัวเรือน โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายจุรินทร์ เดินทางมาจังหวัดนครสวรรค์ กำแพงเพชร สุโขทัย และเพชรบูรณ์ ทั้งนี้ โดยจังหวัดเพชรบูรณ์มีผู้ปลูกข้าวโพดมากที่สุด