ส.อ.ท.เผยปัญหาขาดแคลนชิป ชิ้นส่วน และล็อกดาวน์ฉุดยอดขาย การส่งออก การผลิตรถยนต์เดือน ส.ค.ลดลงถ้วนหน้า แต่ภาพรวม 8 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค. 64) ยอดขายในประเทศโต 2.4% ส่งออกโต 31.9% การผลิตโต 31.89% คงเป้าการผลิตทั้งปีไว้ที่ 1.55-1.6 ล้านคัน ลุ้นรัฐผ่อนคลายล็อกดาวน์ เปิดรับนักท่องเที่ยวเพิ่ม งาน Motor Expo ดันยอดขายในประเทศเพิ่ม
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือน ส.ค. 64 มีจำนวนทั้งสิ้น 42,176 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 38.80% ต่ำสุดในรอบ 15 เดือนจากการล็อกดาวน์ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้ากังวลรายได้ในอนาคต จึงถอนมัดจำและเลื่อนการรับรถ ประกอบกับมีการชะลอการผลิตรถยนต์บางรุ่นที่ยังมีการจองอยู่แต่ขาดชิปและชิ้นส่วนจึงไม่สามารถส่งมอบให้ลูกค้าได้ ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศ 8 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ส.ค. 64) รถยนต์มียอดขาย 467,809 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.4% อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และมีนโยบายเปิดประเทศที่จะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น คาดว่าจะทำให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศในช่วงปลายปีมีแนวโน้มดีขึ้น
“ที่ผ่านมาเราได้ปรับเป้าการผลิตรถยนต์ที่เราวางไว้ในปีนี้จาก 1.5 ล้านคันเป็น 1.55-1.6 ล้านคัน โดยเพิ่มเป้าการผลิตเพื่อส่งออกจาก 7.5 แสนคันเป็น 8-8.5 แสนคัน แต่คงเป้าการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 7.5 แสนคัน ซึ่งเราดูภาพรวมแล้วจะได้ตามเป้าหมายที่วางไว้โดยเฉพาะส่งออกหากปัญหาขาดชิปและชิ้นส่วนไม่รุนแรงขึ้นกว่านี้ ส่วนการผลิตเพื่อขายในประเทศคงจะขอดู 2 เดือนว่าจะมีทิศทางอย่างไร จะปรับเพิ่มได้ไหม เพราะล่าสุดรัฐได้คลายล็อกดาวน์ 1 ก.ย.ทำให้คนเริ่มเข้าโชว์รูมมากขึ้นและมีแนวโน้มจะผ่อนคลายมาตรการต่างๆ มากขึ้น รวมถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และยังจะมีงาน Motor Expo 2021 เดือน ธ.ค.นี้อาจทำให้ยอดขายในประเทศขยับตัวเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน” นายสุรพงษ์กล่าว
สำหรับการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน ส.ค.ส่งออกได้ 59,571 คัน ต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเนื่องจากต้องชะลอการผลิตรถยนต์บางรุ่นที่ขาดชิปและชิ้นส่วน ประกอบกับตลาดเอเชียมีการระบาดของโควิด-19 รุนแรงขึ้น จึงทำให้ส่งออกรถยนต์ไปที่ตลาดเอเชียและตลาดออสเตรเลียและโอเชียเนียลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน แต่หากเทียบกับยอดการส่งออกช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น 3.78% รวมการส่งออกรถยนต์ 8 เดือนแรกปีนี้ 603,650 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 31.94% มีมูลค่าการส่งออก 349,875.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 39.14%
นายสุรพงษ์กล่าวว่า การผลิตรถยนต์ในเดือน ส.ค. 64 มีทั้งสิ้น 104,144 คัน ต่ำสุดในรอบ 13 เดือน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.18% และน้อยกว่าเดือน ก.ค. 64 จำนวน 15.44% เพราะต้องชะลอการผลิตรถยนต์บางรุ่นจากการขาดชิปและชิ้นส่วนของรถยนต์จากการระบาดของโควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศทำให้ผู้ผลิตชิปและชิ้นส่วนรถยนต์ต้องปิดโรงงานชั่วคราว อย่างไรก็ตาม การผลิตรถยนต์ 8 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ส.ค. 64) มีทั้งสิ้น 1,071,908 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 31.89% แบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกคิดเป็น 47.92% และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศคิดเป็น 52.08% ของยอดการผลิตรถยนต์นั่งทั้งหมด
“การขาดแคลนชิปและชิ้นส่วนยังเป็นเรื่องที่เราต้องติดตามใกล้ชิด โดยปัญหานี้ได้กระทบต่อยอดการผลิตรถยนต์ทั่วโลกลดลงกว่า 9 ล้านคัน ของไทยเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน คงต้องดูในเดือน ก.ย.ว่าจะมีการลดลงมากน้อยเพียงใดตามบริษัทแม่ที่จะจัดสรรชิปและชิ้นส่วน โดยผลกระทบจากโควิด-19 ที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก ทำให้นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าอุตสาหกรรมยานยนต์โลกจะต้องใช้เวลาอีก 2 ปีจะกลับไปสู่ปกติหรือก่อนมีโควิด-19 โดยไทยเองก่อนโควิด-19 ก็ผลิตได้ระดับ 1 ล้านคัน และเคยผลิตรถยนต์ได้สูงสุดถึง 2.4 ล้านคันมาแล้ว หากจะกลับไปจุดเดิมก่อนโควิดระบาดก็ต้องอาศัยเวลาเช่นกัน” นายสุรพงษ์กล่าว