บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ผลิตรถรวมทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ครบ 200,000 คัน หลังจากเปิดไลน์การผลิตมายาวนานกว่า 21 ปี นับเป็นยอดการผลิตที่ก้าวกระโดดขึ้นมาอย่างน่าประทับใจ หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการผลิตรถครบ 100,000 คัน ในปี 2561 หรือภายในเวลาเพียงสามปีที่ผ่านมาเท่านั้น สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการอย่างต่อเนื่องที่เพิ่มขึ้นทั้งในและนอกประเทศ นอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยูในจังหวัดระยองยังยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อสูงสุดทั้งสำหรับพนักงานและการดำเนินการภายในพื้นที่เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของพนักงาน และสามารถดำเนินการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง
เอริค รูเก้ กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย กล่าวว่า “แม้ในปีที่ผ่านมาจะมีความท้าทายหลายประการ แต่เราได้เรียนรู้ที่จะปรับวิธีการทำงานในช่วงเวลาที่ห่วงโซ่อุปทานได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างเช่นนี้ ด้วยการจัดการด้านการผลิตที่มีประสิทธิภาพและมีความยืดหยุ่น พร้อมมาตรการอันรัดกุมเพื่อปกป้องพนักงานและพาร์ทเนอร์ของเรา หมุดหมายการผลิตครบ 200,000 คันนี้ คือสัญลักษณ์ของความเข้มแข็งและความมุ่งมั่นของเรา ที่จะส่งมอบรถที่ดีที่สุดสู่ตลาดไทยและตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาค”
จากจำนวนการผลิตรถยนต์รวมทั้งหมดของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย กว่า 62.7% เป็นรถยนต์ที่ผลิตเพื่อรองรับตลาดในประเทศ ส่วนที่เหลือเป็นรถยนต์ที่ผลิตเพื่อส่งออกสู่ภูมิภาค สำหรับรุ่นรถยนต์ที่ถูกผลิตมากที่สุดเพื่อรองรับตลาดประเทศไทย ประกอบด้วย บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 และบีเอ็มดับเบิลยู X1
นับตั้งแต่เริ่มสายการประกอบ ณ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยูที่ระยอง มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด คิดเป็น 15.4% ของจำนวนการประกอบรถสะสมทั้งหมด ในขณะที่อีก 84.6% ของการผลิตเป็นรถยนต์ภายใต้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทั้งนี้ กว่า 70.8% ของจำนวนมอเตอร์ไซค์ทั้งหมดที่ผลิตโดยบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ถูกส่งออกไปยังต่างประเทศ ในขณะที่รุ่นมอเตอร์ไซค์ที่ถูกผลิตมากที่สุดเพื่อรองรับตลาดในประเทศคือ มอเตอร์ไซค์ในรุ่นแอดเวนเจอร์และสปอร์ต
แม้ว่า บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย จะยังคงเดินหน้าเติบโตขึ้นอีกขั้น สุขภาพของพนักงานในสายการผลิตก็เป็นสิ่งที่โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู จังหวัดระยอง ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดสำหรับพนักงานและให้การผลิตดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ได้จัดทำมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยสำหรับพนักงานในโรงงานระยองอย่างเคร่งครัดในทุก ๆ ด้าน ซึ่งรวมถึงการตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวดที่ทางเข้าโรงงานก่อนเข้าพื้นที่ โดยสามารถตรวจหาเชื้อด้วยชุด Antigen Test Kit (ATK) ได้เมื่อถูกร้องขอ การจัดหาหน้ากากอนามัย และต้องสวมหน้ากากในทุกพื้นที่ตลอดเวลา โดยต้องเปลี่ยนหน้ากากใหม่ทุกเที่ยงวัน ส่วนบริเวณรับประทานอาหารมีการขยายพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อรองรับการเว้นระยะห่างทางสังคม ในขณะที่อุปกรณ์ในการรับประทานอาหารเป็นประเภทใช้ครั้งเดียวที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อ นอกจากนี้ ยังได้มีการเตรียมพร้อมด้านโรงพยาบาลพาร์ทเนอร์ ในกรณีที่ต้องมีการตรวจเชื้อแบบ RT-PCR หรือจำเป็นต้องมีการรักษาอาการในลำดับถัดไป ทั้งนี้ พนักงานและพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่ปฏิบัติงานในพื้นที่โรงงาน ยังได้รับการฉีดวัคซีนจำนวนสองเข็มตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อปกป้องสุขภาพของพวกเขา โดยบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มุ่งมั่นดูแลสวัสดิภาพของพนักงาน และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในที่ทำงานเป็นอย่างยิ่ง
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้ แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิต 31 แห่งใน 15 ประเทศ อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก
ในปี พ.ศ. 2563 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์กว่า 2.3 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 169,000 คันทั่วโลก กำไรก่อนหักภาษีในปีงบประมาณ 2562 อยู่ที่ 7.118 พันล้านยูโร จากรายได้รวม 104.210 พันล้านยูโร โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 126,016 คนทั่วโลก
ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสามบริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล
ในปี 2563 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยสถิติส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 12,426 คัน โดยได้ส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรวม 11,242 ลดลง 4.3% จากปีก่อนหน้า ขณะที่มินิมียอดการส่งมอบ 1,184 คัน ลดลงจากปีก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 1.7% ด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งไว้ได้ ด้วยยอดส่งมอบ 1,224 คัน แม้จะต้องประสบกับสถานการณ์โรคระบาดในปี 2563
ด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนู แฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมา นอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 31 แห่ง ใน 15 ประเทศทั่วโลก
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่างๆ ทั้งหมด 17 รุ่น ได้แก่ บีเอ็ม ดับเบิลยู ซีรีส์ 2 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็ม ดับเบิลยู X5 และบีเอ็มดับเบิลยู X7 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR บีเอ็มดับเบิลยู F750 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS บีเอ็ม ดับเบิลยู R 1250 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 5 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e และบีเอ็มดับเบิลยู 745Le xDrive