“ทูตพาณิชย์มุมไบ” รับนโยบาย “จุรินทร์” จัดทำโครงการ Thailand Week Online เจาะเมืองรองอินเดียตะวันตก เผยมีผู้ซื้อ ผู้นำเข้าอินเดียสนใจร่วมเจรจาธุรกิจ 110 ราย กับผู้ส่งออกไทย 35 ราย จับคู่รวม 400 คู่ คาดตกลงซื้อขายกว่า 2,300 ล้านบาท
น.ส.สุพัตรา แสวงศรี ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ อินเดีย เปิดเผยว่า สำนักงานฯ ได้จัดทำโครงการส่งเสริมการขายสินค้าไทยตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าไทยในเมืองรองต่างๆ โดยล่าสุดได้จัดโครงการ Thailand Week Online ในรัฐอินเดียตะวันตก ในช่วงปลายเดือน ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา ในรูปแบบให้ผู้ประกอบการไทยส่งสินค้าตัวอย่าง แล้วส่งให้ผู้นำเข้าได้ทดลองก่อนนัดหมายเจรจาธุรกิจออนไลน์ และนำสินค้าตัวอย่างไปจัดแสดงให้ผู้นำเข้าได้รับชมบริเวณที่จัดงานสำหรับผู้นำเข้าบางรายที่เดินทางมาเจรจาธุรกิจ ณ สถานที่จัดงาน
ทั้งนี้ ผลการจัดงานปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อ ผู้นำเข้าอินเดียเป็นอย่างมาก มีการติดต่อเข้าร่วมการเจรจาธุรกิจ โดยเป็นผู้นำเข้าอินเดีย 110 ราย ผู้ส่งออกไทย 35 ราย มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจรวม 400 คู่ และคาดการณ์การซื้อขายภายใน 1-2 ปี ประมาณ 74 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,368 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 32 บาทต่อเหรียญสหรัฐ)
สำหรับสินค้าที่ได้รับความสนใจสูงสุด เช่น ขนมขบเคี้ยว ทองม้วน ขนมปังอบกรอบ น้ำผลไม้ น้ำหวานรสผลไม้ผสมเยลลี ผลไม้อบกรอบ ถั่วเคลือบโกโก้ อาหารมังสวิรัติ ครีมทากันยุง สบู่และครีม น้ำมันอาบน้ำ น้ำหอมและโลชั่นบำรุงผิว อาหารพร้อมรับประทาน พริกแกง เส้นก๋วยเตี๋ยว รองเท้าแตะ ชุดชั้นใน ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก เป็นต้น
น.ส.สุพัตรากล่าวว่า การจัดส่งสินค้าตัวอย่างมาให้ผู้นำเข้าได้ทดลองล่วงหน้าทำให้การเจรจาเกิดประสิทธิผลมากขึ้น ผู้นำเข้าสามารถโฟกัสสินค้าและเจรจาลงรายละเอียดในสินค้านั้นๆ ได้ เช่น ปริมาณการสั่งซื้อขั้นต่ำ ราคา และความร่วมมือในการส่งเสริมการขาย เป็นต้น และผู้นำเข้าเห็นว่าสินค้าไทยเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าอินเดีย เพราะคุณภาพดีแต่ราคาค่อนข้างสูง หากสามารถปรับลดราคาลงให้สอดคล้องกับสภาพตลาดได้ก็จะเป็นการเพิ่มแรงจูงใจในการนำเข้ามากขึ้น
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการทั้งไทยและอินเดียเห็นว่าการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจออนไลน์เป็นมิติใหม่ในการค้าระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพในระหว่างที่คู่ค้าไม่สามารถเดินทางหากันได้ แต่ระยะเวลาเจรจาการค้าค่อนข้างสั้น ประกอบกับมีความติดขัดในสัญญาณอินเทอร์เน็ตและการเข้าใช้ระบบในบางครั้ง ทำให้ทั้งผู้นำเข้าและผู้ส่งออกมีเวลาจำกัดในการเจรจา ซึ่งในการติดตามผลการเจรจา สำนักงานฯ ได้จัดทำรายงานการเจรจา (Minutes of Meeting) ให้ทุกคู่เจรจา เพื่อผู้ประกอบการไทยและผู้นำเข้าจะได้ติดตามความคืบหน้าระหว่างกันในระยะต่อไปแล้ว
