ผู้นำด้านการแพทย์ไต้หวัน โดย รพ.จางฮั่วคริสเตียนร่วมกับ TAITRA และ MIRDC ดึงบริษัทชั้นนำด้านการแพทย์อัจฉริยะของไต้หวัน ร่วมถ่ายทอดความรู้รับประสบการณ์คุมโควิด-19 สู่ 6 ประเทศแถบอาเซียน ด้วยนวัตกรรมและโซลูชันอัจฉริยะ ลดสัมผัส ลดความเสี่ยง เห็นผลจริง บุคลากรทางการแพทย์และผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ไทยเข้าร่วมสัมมนาออนไลน์จับคู่ธุรกิจคึกคัก เพียง 2 วัน คนเข้าร่วมฟังเกือบ 500 คน
วันนี้ (6 ก.ย.) นางเกาเสี่ยวหลิง ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์นานาชาติโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียนกล่าว วิกฤตโควิด-19ได้ระบาดตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้การบริการสาธารณสุขทั่วโลกเข้าสู่ยุคสมัยใหม่เร็วยิ่งขึ้น ไต้หวันถือเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อด้านการแพทย์อัจฉริยะและมีสินค้าป้องกันโรคคุณภาพดีมากมาย ซึ่งได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ในช่วงวิกฤตโควิด-19ครั้งนี้ ที่สามารถลดการสัมผัสระหว่างบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย ทำให้แพทย์สามารถให้การรักษาได้ในความเสี่ยงที่ต่ำลง เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ทางการแพทย์และเพื่อดำเนินการตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ โรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียนจึงได้ร่วมมือกับสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน (TAITRA) และศูนย์วิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโลหะไต้หวัน (MIRDC) จัดงาน “สัมมนาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ประจำปี 2564 : การป้องกันโควิด-19ด้วยเทคโนโลยีและสมาร์ทเฮลธ์แคร์” โดยในงานแบ่งเป็น 2 หัวข้อ ได้แก่ “การดูแลสุขภาพด้วยนวัตกรรมและโซลูชั่นอัจฉริยะ” และ “การดูแลสุขภาพแบบ New Normal ในยุคโควิด-19” ในวันที่ 2 และ 3 กันยายน 2564 ส่งเสริมสินค้าทางการแพทย์ของไต้หวันตีตลาดอาเซียนอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับการแพทย์อัจฉริยะของไต้หวันและผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีป้องกันโรคในประเทศอาเซียน
งานสัมมนาออนไลน์ทั้ง 2 วัน มีคนเข้าร่วมฟังรวมกว่า 500 คน โดยเป็นบุคลากรทางการแพทย์จากนานาประเทศ อาทิ ประเทศไทย ประเทศพม่า ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศปาปัวนิวกินี ประเทศมาเลเซีย ฯลฯ ภายในวันงานยังได้จัดไลฟ์สดบนช่องทางยูทูปด้วย ผู้เข้าร่วมสัมมนาต่างได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างคึกคัก ทั้งผู้เข้าร่วมจากประเทศไทยและประเทศพม่าที่ได้แชร์ประสบการณ์วิกฤตโควิด-19ในประเทศของตัวเอง อีกทั้ง ยังได้แสดงความสนใจต่อสินค้าของไต้หวันและสนใจที่จะร่วมมือกันในอนาคต
“ในการบรรยายของงานสัมมนาทั้ง 2 หัวข้อ ได้รับเกียรติจากตัวแทน 8 บริษัทด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ชั้นนำของไต้หวันมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การรับมือโควิด-19 ซึ่งถือเป็นประโยชน์อย่างมากในโลกที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเป็นดิจิทัลและเทคโนโลยีบิ๊กดาต้า สามารถพูดได้ว่าจุดเด่นที่สุดของสินค้าทางการแพทย์อัจฉริยะและป้องกันโรคของไต้หวัน คือ ความแปลกใหม่ ใช้ได้จริง และมีความยืดหยุ่น สินค้าเหล่านี้ไม่เพียงใช้งานได้ดีในช่วงโรคระบาด แต่หลังจากโรคระบาดผ่านพ้นไปแล้วก็ยังสามารถใช้งานต่อได้ สินค้าเหล่านี้ไม่เพียงใช้ได้ในไต้หวัน แต่สามารถปรับแต่งรายละเอียดต่าง ๆ ตามความต้องการของโรงพยาบาลในต่างประเทศได้ ทั้งหมดนี้จะทำให้ประชาชนสามารถรับบริการทางการแพทย์ที่ดียิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้” นางเกาเสี่ยวหลิง ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์นานาชาติโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียนกล่าว
นอกจากนี้ นางเกาเสี่ยวหลิงยังกล่าวอีกว่า “โรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียนจะร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการไต้หวัน กระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน (TAITRA) และศูนย์วิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโลหะไต้หวัน (MIRDC) ต่อไป รวมพลังทั้งภาครัฐและเอกชน ยกระดับชื่อเสียงของไต้หวันในประเทศไทย รวมถึงประเทศอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเพิ่มโอกาสทางค้าให้มากยิ่งขึ้น”
ผู้ที่สนใจงานสัมมนาครั้งนี้ สามารถรับชมคลิปวิดีโอย้อนหลังได้ที่YouTube
วันที่ 2 กันยายน 2564 (https://youtu.be/rhUtlkCwDKs)
ผู้บรรยาย: บริษัทimedtac, บริษัทAcerHealth, บริษัทBenQ Medical Technology และบริษัทHIWIN
วันที่ 3 กันยายน 2564 (https://youtu.be/AA6QCW_cekI)
ผู้บรรยาย: บริษัทSomnics, บริษัทNew Kinpo Group, บริษัทGeneReach Biotechnology Corp และบริษัทACE Biotek