xs
xsm
sm
md
lg

“อีอีซี” เดินหน้าร่วมมือระดับสูงไทย-กวางตุ้ง หนุนขับเคลื่อน 5 อุตสาหกรรมร่วมกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (25 ส.ค.) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายหม่า ซิงรุ่ย ผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประธานการประชุมความร่วมมือระดับสูงไทย-กวางตุ้ง (High Level Cooperation Conference : HLCC) ครั้งที่ 1 หัวข้อ Stronger Strategic Synergy between GBA and the EEC for a Better Future โดยมี นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นายวีรชัย มั่นสินทร ประธานสถาบันความร่วมมืออุตสาหกรรมไทย-จีน (สภาอุตสาหกรรม) นายโจว ย่าเหว่ย สมาชิกถาวรพรรคคอมมิวนิสต์จีน นครกว่างโจว (เทียบเท่ารองนายกเทศมนตรีกว่างโจว) นายเถา หย่งซิน รองนายกเทศมนตรีเซินเจิ้น และนายจู เหว่ย รองผู้อำนวยการ คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปมณฑลกวางตุ้ง และสำนักงาน GBA เข้าร่วมประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า การประชุม HLCC ครั้งนี้ถือเป็นเวทีหารือเฉพาะด้านเศรษฐกิจและการเชื่อมโยงระหว่างเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี และการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ Greater Bay Area (GBA) ของจีน ซึ่งประกอบด้วย มณฑลกวางตุ้ง ฮ่องกง และมาเก๊า เพื่อยกระดับความร่วมมือระหว่างอีอีซีกับ GBA ให้มีความเชื่อมโยงทางยุทธศาสตร์ในการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะร่วมมือด้านการลงทุนและอุตสาหกรรม 5 สาขาหลักที่กวางตุ้งมีศักยภาพ ได้แก่

(1) อุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่และยานยนต์อัจฉริยะ EV (2) ดิจิทัลและ 5G (3) อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ (4) Smart City และ (5) อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับ Green and Circular Economy ซึ่งสอดคล้องกับประเด็นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ประธานการร่วมประชุมฝ่ายไทย ได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายเร่งรัดส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่างๆ ได้แก่ การสร้างความเชื่อมโยงของห่วงโซ่การผลิต (supply chain connectivity) ในสาขาอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยานยนต์พลังงานใหม่และยานยนต์อัจฉริยะ ปัญญาประดิษฐ์ เกษตรสมัยใหม่ และพลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือก การพัฒนาศักยภาพและเครือข่ายของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs และ Startups และการพัฒนา Smart City และ 5G

อย่างไรก็ดี ที่ประชุมฯ ได้รับรองความร่วมมือ 6 สาขาที่ทั้งสองฝ่ายจะเร่งดำเนินการ ได้แก่ (1) อุตสาหกรรมสมัยใหม่ (2) เศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน (3) การเกษตร (4) วัฒนธรรม การท่องเที่ยวและการดูแลสุขภาพ (5) การแลกเปลี่ยนฉันมิตรระหว่างท้องถิ่น (6) ความร่วมมือด้านอื่นๆ เช่น พลังงานสะอาด วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม รวมถึงการเงินและตลาดทุน โดยทั้งสองฝ่ายยินดียกระดับความร่วมมือระหว่าง สกพอ.กับสำนักงาน GBA และเขตนำร่องการค้าเสรีของกวางตุ้ง และเห็นพ้องให้จัดตั้งคณะทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดการทำงานที่เป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง และมีการร่วมมือและประสานงานกันอย่างใกล้ชิด โดยจะเจาะลึกถึงการลงทุนในกิจการและอุตสาหกรรมสำคัญ รวมถึงร่วมพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างมีเป้าหมาย


นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการอีอีซี กล่าวว่า การเชื่อมโยงการพัฒนาเชิงพื้นที่ระหว่างอีอีซีกับ GBA ผ่านเส้นทางบกและทางรางผ่านทาง สปป.ลาว และไทยมายังปลายทางอีอีซีจากแผนการพัฒนาท่าเรือบก (Dry port) ซึ่งจะเชื่อมโยงกับท่าเรือบกประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงจีนตอนใต้ เช่น ฉงชิ่ง และคุนหมิง การเชื่อมโยงขนส่งระหว่างอ่าวไทยกับอันดามันในอนาคตผ่าน Land bridge ไปยังท่าเรือน้ำลึกระนอง ซึ่งจะเชื่อมโยงกลุ่มประเทศเอเชียใต้ และยุโรป และโอกาสการเชื่อมโยงทางอากาศกับสนามบินอู่ตะเภา ที่สามารถรองรับทั้งการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร รวมถึงเป็น Connectivity Hub เชื่อมโยงพื้นที่ GBA กับกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงได้เป็นอย่างดี โดยได้เน้นย้ำถึงศักยภาพของอีอีซีในการเป็นศูนย์กลางรเชื่อมต่อกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ASEAN รวมถึงการเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญสำหรับ Belt & Road Initiative

นอกจากนี้ท่านสุริยะ ยังได้เสนอในประเด็นเร่งด่วนที่ทั้งสองฝ่ายควรเร่งรัดส่งเสริมความร่วมมือ ได้แก่ (1) การสร้างความเชื่อมโยงของห่วงโซ่การผลิต (supply chain connectivity) ในสาขาอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยานยนต์พลังงานใหม่และยานยนต์อัจฉริยะ ปัญญาประดิษฐ์ เกษตรสมัยใหม่ และพลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือก (2) การพัฒนาศักยภาพและเครือข่ายของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs และ Startups และ (3) การพัฒนา Smart City และ 5G โดยขอให้ทั้งสองฝ่ายมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ผลหารือให้เป็นรูปธรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น