สำนักข่าวซินหัว สื่อทางการจีน รายงาน (25 ส.ค.) "จง หนานซาน" นักระบาดวิทยาชื่อดังของจีนร่วมงานมหกรรมแสดงสินค้าจีน-กลุ่มประเทศอาหรับ (China-Arab States Expo) และเปิดเผยว่า จีนอาจสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ภายในสิ้นปี 2564 หลังวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ให้ประชาชนแล้วมากกว่าร้อยละ 80
นายจงฯ อ้างบทความที่เผยแพร่ในวารสารการแพทย์นิว อิงแลนด์ เจอร์นัล ออฟ เมดิซีน (NEJM) ในเดือน ก.ค. 64 ซึ่งบ่งชี้ว่า จากการศึกษากลุ่มผู้ฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตายกว่า 10 ล้านคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป วัคซีนมีประสิทธิภาพป้องกันการติดโรคโควิด-19 ร้อยละ 65.9 ป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลร้อยละ 87.5 ป้องกันการเข้ารักษาตัวในแผนกผู้ป่วยหนักร้อยละ 90.3 และป้องกันการเสียชีวิตร้อยละ 86
นอกจากนี้ การศึกษาเบื้องต้นจากการระบาดระลอกล่าสุดในมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) บ่งชี้ว่า วัคซีนที่จีนผลิตเองในประเทศมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตาได้
“กว่างโจวตรวจพบผู้ป่วย 153 รายในการระบาดระลอกล่าสุด เราได้เปรียบเทียบสถิติของผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย ทั้งกลุ่มที่ฉีดวัคซีนแล้วและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เพื่อทดสอบว่าวัคซีนช่วยป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ดังกล่าวหรือไม่ และพบว่าวัคซีนจีนมีประสิทธิภาพป้องกันสายพันธุ์เดลตาโดยรวมใกล้เคียงร้อยละ 60 ป้องกันอาการป่วยระดับปานกลางได้ร้อยละ 70 และป้องกันการป่วยขั้นรุนแรงได้ร้อยละ 100 บทความชิ้นนี้เผยแพร่เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้าในวารสารอีเมอร์จิง ไมโครบส์ แอนด์ อินเฟกชันส์ (Emerging Microbes & Infections) ซึ่งเป็นข้อมูลล่าสุดครับ” นายจงฯ กล่าว
นายจงฯ ตอบคำถามเกี่ยวกับระยะเวลาของภูมิคุ้มกันว่า “อิสราเอลเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงสุดหลังจากฉีดวัคซีนของไฟเซอร์อย่างจริงจัง ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยใหม่ลดลงอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการป้องกันร้อยละ 95 แต่ตัวเลขดังกล่าวกลับลดเหลือร้อยละ 39 หลังเวลาผ่านไปครึ่งปี ทำให้จำนวนผู้ป่วยใหม่เพิ่มสูงอย่างเห็นได้ชัด สิ่งนี้พิสูจน์ว่าประสิทธิภาพของวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) สามารถคงอยู่ได้ราวครึ่งปี สหรัฐฯ เองก็เผชิญสถานการณ์นี้เช่นกัน ผู้ที่ฉีดวัคซีนเชื้อตายและวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอต่างมีภูมิคุ้มกันลดลงอย่างเห็นได้ชัดหลังฉีดนาน 6 เดือน ขณะนี้หลายประเทศจึงกำลังเร่งเสาะหาวิธีการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ได้จากการฉีดวัคซีน”
“ข้อมูลล่าสุดในจีนเผยว่า วัคซีนจะมีประสิทธิภาพลดต่ำลงหลังฉีดครบโดสนาน 6 เดือน แต่ระดับแอนติบอดีจะเพิ่มขึ้นหากมีการฉีดโดสกระตุ้น และจะคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูงต่อไปอีก 6 เดือน แต่เราไม่สามารถรับรองได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในภายหลัง แต่ดูเหมือนว่านี่จะเป็นวิธีการเพิ่มภูมิคุ้มกันที่มีแนวโน้มสำเร็จมาก โดยจีนมีเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ประชากรมากกว่าร้อยละ 80 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และเราคิดว่าจะทำมันได้ภายในสิ้นปีนี้” นายจงฯ ระบุ