ส.อ.ท.หนุนมาตรการยกระดับควบคุมระดับสูงสุด กทม.-ปริมณฑลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยแนะใช้โอกาสนี้เร่งตรวจเชิงรุกเพื่อเร่งควบคุมการแพร่ระบาดลดจำนวนผู้ติดเชื้อ โดยหนุนจัดหาชุดตรวจหาเชื้อไวรัสแบบเร่งด่วน หรือ Rapid Test เพื่อลดแออัดคนรอรับการตรวจให้คนไทยใช้เพิ่มขึ้น
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้เห็นชอบยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พื้นที่สูงสุดในพื้นที่กรุเทพมหานครและปริมณฑล 10 จังหวัดรวม 14 วัน ว่า ส.อ.ท.เห็นว่ารัฐบาลควรที่จะใช้ช่วงจังหวะนี้ในการเร่งตรวจเชิงรุกเพื่อตรวจหาคนที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่อย่างเร่งด่วนและรวดเร็ว เพื่อเร่งควบคุมการแพร่ระบาดที่ขณะนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงถึงระดับกว่า 9,000 คน
“รัฐบาลต้องเร่งควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดให้ได้เร็วที่สุด เพราะการแพร่ระบาดนั้นส่งผลกระทบหนักกว่ารอบที่ผ่านๆ มา และภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลจัดการควบคุมการแพร่ระบาดให้จบโดยไว ส.อ.ท.จึงอยากเสนอให้รัฐบาลอนุมัติ หรืออนุญาต ให้มีการนำชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโควิดแบบเร่งด่วน หรือ Rapid Antigen Test เข้ามาใช้เพื่อลดความแออัดของคนที่ไปรอรับการตรวจ และจะทำให้การตรวจเข้าถึง ทั่วถึง ทุกกลุ่ม ทุกคนมากขึ้น นอกเหนือจากการเร่งรัดการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุดเพราะนี่คือทางรอดเดียว” นายสุพันธุ์กล่าว
นอกจากนี้ หากเป็นไปได้รัฐบาลควรเพิ่มมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท.ชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่ไม่รับเงิน 3 เดือน และยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนได้แสดงสปิริตด้วยการงดรับเงินเดือนเช่นเดียวกัน
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า หากถามเอกชนคงไม่อยากให้เกิดขึ้นเพราะจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจบางส่วนหยุดขับเคลื่อน แต่หากมองในแง่ของระบบสาธารณสุขของประเทศที่บุคลากรทางการแพทย์ไม่อาจรับมือได้เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อสูงขึ้นการดำเนินการดังกล่าวจึงมีความจำเป็น อย่างไรก็ตาม ปฐมเหตุในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเห็นว่ายังคงเป็นเรื่องของการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนโดยเร็วและเป็นวัคซีนที่มีคุณภาพในการป้องกันโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆ ได้ด้วยที่ขณะนี้ยังถือว่ามีการฉีดได้น้อยมาก
“สิ่งสำคัญคือ แนวทางปฏิบัติหลังมีมาตรการแล้วแผนต่างๆ วางไว้อย่างไร โดยเฉพาะมีมาตรการเยียวยาผลกระทบต่อธุรกิจและประชาชนหรือไม่ ซึ่งเห็นว่ามีความจำเป็นเพราะประชาชนเองก็ลำบากอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน เวลานี้คนติดเชื้อจำนวนมากจนทำให้การบริการสาธารณสุขมีปัญหา รัฐควรจะเปิดทางให้มีการนำเข้าชุดตรวจสอบโควิด-19 ด้วยตนเอง หรือ Rapid Antigen Test เพื่อให้คนไทยได้ซื้อในราคาไม่แพงเพิ่มขึ้นเพื่อทดสอบตนเองอยู่บ้าน หากพบว่าติดก็จะได้เข้ากระบวนการที่จะทำให้ปัญหาคัดแยกผู้ป่วยมีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้น” นายเกรียงไกรกล่าว
นอกจากนี้แล้ว สิ่งสำคัญคือรัฐจะต้องมีมาตรการที่เข้มข้นการควบคุมการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าวตามช่องทางธรรมชาติ รวมไปถึงการเข้มข้นในการตรวจสถานประกอบการที่มีการลักลอบเปิดที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ เช่น แหล่งพนัน สถานบันเทิง ที่เวลานี้แรงงานต่างด้าวก็ยังพบมีการลักลอบเข้ามา การพนันก็ยังจับได้รายวัน เหล่านี้หากไม่เคร่งครัดปัญหาก็จะยังตามมาอยู่เช่นกัน