ออกแบบเสร็จแล้วทางหลวงแนวใหม่ 4 เลนเชื่อม อ.ปลายพระเยา จ.กระบี่-อ.ทับปุด จ.พังงา 26 กม. งบ 1,900 ล้านบาท เร่งเวนคืน คาดก่อสร้างปี 65 เสร็จปี 68 เพิ่มโครงข่ายแนวออก-ตก ช่วยลดระยะเวลาเดินทาง หนุนเศรษฐกิจและท่องเที่ยวภาคใต้
รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทล.ได้ดำเนินโครงการสำรวจและออกแบบโครงการก่อสร้างทางหลวงขนาด 4 ช่องจราจร ทางหลวงแนวใหม่ ระหว่าง อ.ปลายพระเยา จ.กระบี่-อ.ทับปุด จ.พังงา ระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร เสร็จแล้ว รวมถึงได้ออก พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดินแล้วเมื่อปี 2563 ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และมีแผนที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2565 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2568 โดยงบประมาณก่อสร้างประมาณ 1,900 ล้านบาท
โดยเป็นโครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่ เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างทางหลวงหมายเลข 44 บริเวณ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ต่อไปยัง อ.ทับปุด จ.พังงา เชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 4 รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายที่เชื่อมโยงกับทางหลวงหมายเลข 44 สายกระบี่-ขนอม ซึ่งจะเป็นเส้นทางลัดในการเดินทางระหว่างจังหวัดพังงากับจังหวัดกระบี่ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มความรวดเร็วในการเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ ของภาคใต้ โดยครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ 2 จังหวัด ได้แก่ อ.ปลายพระยา และ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ และ อ.ทับปุด จ.พังงา
มีจุดเริ่มต้นโครงการอยู่บนทางหลวงหมายเลข 44 ประมาณ กม.ที่ 29+738 (ถนนเซาเทิร์น) บริเวณบ้านโคกเจียก อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ แนวเส้นทางจะวางแนวออกจากถนนเซาเทิร์นมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ อ้อมลงมาทางด้านใต้ของเขาบางหมวย ตัดผ่านพื้นที่สวนปาล์มและทางหลวงหมายเลข 4035 (ถนนอ่าวลึก-พระแสง) ที่บริเวณบ้านปากน้ำ ตัดผ่านถนนทางเข้าอ่างเก็บน้ำคลองหยาบริเวณร่องเขาเกราะ ผ่านพื้นที่บริเวณบ้านปากหยา บ้านศรีพระยา และบ้านควรเศียร ตัดผ่านทางหลวงชนบทหมายเลข กบ.1015 บริเวณบ้านช่องแบก ตัดอ้อมบริเวณด้านทิศใต้ของวัดเขาหัวสิงห์ ผ่านพื้นที่ตำบลนาเหนือบริเวณบ้านบางไทร และตำบลเขาใหญ่ บริเวณบ้านทุ่งสูง ตัดอ้อมไปทางด้านเหนือของวัดนาเหนือ ตัดผ่านทางหลวงหมายเลข 4040 (ถนนนาเหนือ-ปากลาว) ไปบรรจบกับแนวเส้นทางของโครงการทางเลี่ยงเมืองทับปุดที่เป็นโครงการในอนาคต
สำหรับรูปแบบถนนเป็นทางขนาด 4 ช่องจราจรไป-กลับ กว้างช่องละ 3.5 เมตร ไหล่ทางด้านนอกกว้าง 2.5 เมตร ไหล่ทางด้านในกว้าง 1.5 เมตร แบ่งทิศทางการจราจรด้วยเกาะกลางแบบกดเป็นร่อง (Depressed Median) มีเขตทางโดยทั่วไปกว้าง 60 เมตร ในบริเวณจุดกลับรถใต้สะพานมีทางคู่ขนานกำหนดเขตทางเป็น 90 เมตร ส่วนบริเวณจุดตัดทางแยกจะมีเขตทางกว้างกว่าช่วงปกติโดยเป็นไปตามลักษณะทางเรขาคณิตและระยะการมองเห็นที่ปลอดภัยบริเวณทางแยก ซึ่งในการออกแบบได้พิจารณาให้สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศที่แนวเส้นทางตัดผ่าน สำหรับการออกแบบจุดตัดทางแยกตามแนวเส้นทางประกอบด้วย จุดตัดถนนโครงการกับทางหลวงหมายเลข 44 ที่ กม.0+000 (จุดเริ่มต้นโครงการ) ทางหลวงหมายเลข 4035 ที่ กม.5+490 ทางหลวงหมายเลข 4 ที่ กม.22+233 ทางหลวงหมายเลข 4040 (เดิม) ที่ กม.25+561
ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันการใช้เส้นทางนี้ยังขาดโครงข่ายทางหลวงสายหลักที่เชื่อมต่อในแนวตะวันออก-ตะวันตก ทำให้การเดินทางและการขนส่งสินค้าไม่ได้รับความสะดวก ต้องเดินทางอ้อมเป็นระยะไกล อีกทั้งโครงข่ายปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นทางหลวงสายรองขนาด 2 ช่องจราจรผ่านพื้นที่เนินและพื้นที่เขา ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
ดังนั้น เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มความรวดเร็วในการเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ ของภาคใต้ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมขนส่ง อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของพื้นที่และของประเทศอีกทางหนึ่งด้วย