รถไฟไทย-จีนติดปัญหาสถานีอยุธยาติดปมมรดกโลก และช่วงก่อสร้างทับซ้อนไฮสปีด 3 สนามบิน “ศักดิ์สยาม” สั่งเร่งหาทางออกร่วมอีอีซี พร้อมตั้งอนุฯ 3 ชุดดูระบบเชื่อมต่อและการขนส่งข้ามแดนไทย-ลาว ส่วน “โคราช-หนองคาย” ออกแบบเสร็จ มิ.ย.นี้ เตรียมพร้อมประชุมครั้งที่ 29
วันนี้ (27 พ.ค. 2564) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 2/2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ด้วยโปรแกรม "Zoom" เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงาน ภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา ระยะทาง 250.77 กม. วงเงินลงทุน 179,412.21 ล้านบาท มีงานโยธาแบ่งเป็น 14 สัญญา โดยก่อสร้างแล้วเสร็จจำนวน 1 สัญญา อยู่ระหว่างก่อสร้าง 6 สัญญา เตรียมการก่อสร้าง 3 สัญญา อยู่ในขั้นตอนการประกวดราคา 4 สัญญา
ส่วนในระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356.10 กม. มีจำนวน 5 สถานี ได้แก่ สถานีบัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานีขอนแก่น สถานีอุดรธานี สถานีหนองคาย มีศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) 2 แห่ง ที่นาทา และเชียงรากน้อย มีศูนย์ซ่อมบำรุงทาง (Maintenance Base) 4 แห่ง ที่บ้านมะค่า หนองเม็ก โนนสะอาด และนาทา มีย่านกองเก็บตู้สินค้า (CY) และย่านเปลี่ยนถ่ายสินค้า (Transshipment Yard) 1 แห่งที่นาทา
ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินโครงการศึกษาและออกแบบรายละเอียดเพื่อเชื่อมต่อทางรถไฟช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ ซึ่งคาดว่าออกแบบแล้วเสร็จเดือน มิ.ย. 2564 และกระทรวงคมนาคมได้เตรียม
จัดประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 29 เพื่อหารือร่วมกับฝ่ายจีนในการดำเนินงานในระยะต่อไป
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน จำนวน 3 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนการดำเนินโครงการ, คณะอนุกรรมการพัฒนาการเชื่อมต่อ และการขนส่งข้ามแดนทางรถไฟช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ และคณะอนุกรรมการปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะต่างๆ เพื่อทำหน้าที่เป็นระบบสนับสนุนผู้โดยสารให้แก่ระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อขับเคลื่อนดำเนินโครงการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้มีข้อสั่งการเพิ่มเติมอีก 3 ข้อ คือ 1. ให้กระทรวงคมนาคมหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ในประเด็นการก่อสร้างโครงสร้างงานโยธาร่วม ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง กับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ให้ได้ข้อสรุปเพื่อเสนอต่อ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกต่อไป
2. ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาแนวทางก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ว่าสามารถดำเนินการได้ตามมติคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกหรือไม่
3. ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการจัดทำแนวทางการเชื่อมโยงรถไฟระหว่างไทย-ลาว-จีน โดยพิจารณาแนวทางเลือกข้อดี-ข้อเสียด้านต่างๆ เพื่อหารือกับฝ่ายจีนต่อไป