คณะกรรมการบริหาร ส.อ.ท.ถกวาระด่วนระดมสมองแก้ไขปัญหา 4 คอขวดที่ทำให้การบริหารจัดการวัคซีนให้เร็วและครอบคลุมไปได้ไม่ถึงไหน แนะวิธีแก้ไข แนะอบรมนักศึกษาแพทย์ เภสัชกรเพิ่มบุคลากรมาช่วยฉีดวัคซีนเฉพาะกิจ เพิ่มสถานที่บริการฉีดวัคซีน ชงปั๊มบางจากทั่วประเทศ 1,200 แห่ง และโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่รองรับ
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมกรรมการบริหาร ส.อ.ท.เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ได้หารือวาระเร่งด่วนถึงมาตรการแก้ไขปัญหาโควิด-19 โดยเห็นว่าการฉีควัคซีนให้รวดเร็วและครอบคลุมจะช่วยป้องกันและลดจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศได้ แต่การขับเคลื่อนการฉีดวัคซีนยังคงประสบปัญหาคอขวดด้วยกัน 4 ประการ ได้แก่ 1. จำนวนวัคซีนที่ไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากรในประเทศ 2. การฉีดวัคซีนที่ค่อนข้างล่าช้าเนื่องจากบุคลากรที่สามารถฉีดได้ไม่เพียงพอ (บุคลากร และสถานที่) ปัจจุบันมีเพียงแพทย์และพยาบาลเท่านั้นที่สามารถฉีดวัคซีนได้ 3. ปัญหาเรื่องการกระจายวัคซีน 4. การสร้างความเชื่อมั่นหลังการฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร ส.อ.ท.ได้ร่วมกันระดมความคิดเพื่อเสนอแนวทางการแก้ปัญหา ดังนี้ 1. ปัญหาด้านจำนวนวัคซีนที่ไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากรในประเทศ โดย ส.อ.ท.เสนอให้ภาครัฐเปิดกว้างให้ภาคเอกชนสามารถนำเข้าวัคซีนได้ภายใต้การกำกับดูแลของภาครัฐ เพื่อให้ภาคเอกชนสามารถเข้าถึงวัคซีนด้วยความรวดเร็ว รวมถึงลดภาระการจัดสรรงบประมาณของภาครัฐ
2. ปัญหาด้านอัตราการฉีดวัคซีนที่ค่อนข้างล่าช้าเนื่องจากบุคลากรที่สามารถฉีดได้ไม่เพียงพอ (บุคลากร และสถานที่) ส.อ.ท.จำแนกปัญหาออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ ด้านบุคลากรที่สามารถฉีดวัคซีนมีไม่เพียงพอ และสถานที่ใช้ฉีดมีจำนวนจำกัด ดังนั้น ส.อ.ท.จึงเสนอแนวทางดังนี้
2.1 ด้านบุคลากร เสนอให้ภาครัฐเร่งผลิตบุคลากรที่สามารถดูแลการฉีดวัคซีนได้เฉพาะกิจ ซึ่งปัจจุบันมีเพียงแพทย์และพยาบาลที่เป็นวิชาชีพที่สามารถฉีดวัคซีนได้ โดยอบรมนักศึกษาแพทย์/เภสัชกร ให้สามารถทำการฉีดวัคซีนและสังเกตอาการก่อนฉีด และหลังฉีดได้ โดยสภาอุตสาหกรรมฯ ร่วมกับแพทยสภาจัดการฝึกอบรมออนไลน์ด้วยแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญผ่านแพลตฟอร์ม FTI Academy เพื่อเพิ่มบุคลากรที่สามารถทำการฉีดวัคซีนดังกล่าวได้
2.2 เพิ่มสถานที่ในการบริการการฉีดวัคซีน โดย ส.อ.ท.ได้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่มีพื้นที่สำหรับจัดเป็นจุดฉีดวัคซีนเพิ่มเติม ดังนี้ ปั๊มน้ำมันบางจากทั่วประเทศ (1,200 กว่าสถานี) โรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ โดย ส.อ.ท.จะทำการประสานโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศให้จัดพื้นที่ภายในโรงงานให้เป็นสถานที่ฉีดวัคซีน
3. ปัญหาด้านการกระจายวัคซีน ส.อ.ท.เสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาแผนการกระจายวัคซีนเพื่อช่วยภาครัฐในการวางแผนการกระจายวัคซีนให้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ 4. ปัญหาด้านการสร้างความเชื่อมั่นหลังการฉีดวัคซีน ส.อ.ท.เสนอให้จัดทำแพลตฟอร์มวัคซีนพาสปอร์ตเพื่อใช้สำหรับการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกภาคส่วนโดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวประเทศ
“การแก้ปัญหาโควิด-19 เป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วนที่จะต้องร่วมมือร่วมใจกัน ส.อ.ท.มีความพร้อมในการเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยบรรเทาความรุนแรงของการแพร่ระบาด รวมถึงการผลักดันให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าในการฟื้นฟูประเทศได้อย่างรวดเร็ว” นายสุพันธุ์กล่าว