ระบบขนส่งภูเก็ตไม่สะเด็ดน้ำ “ศักดิ์สยาม” ให้ศึกษาเพิ่มเติม 4 ข้อ ทั้งการใช้พื้นที่ ประเมินปริมาณผู้โดยสารและอัตราค่าโดยสารใหม่ และเทคนิคก่อสร้างใช้เวลาสั้นและกระทบจราจรน้อย เร่ง สนข.- รฟม.ประสานหน่วยงานและท้องถิ่น ตั้งเป้าเปิดบริการปี 2569
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเมืองหลักในภูมิภาคโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ว่า จากที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้นำเสนอการศึกษาเบื้องต้นโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง เรื่องของเทคโนโลยีรถไฟฟ้าสำหรับโครงการฯ ดังกล่าว ซึ่งมี 3 รูปแบบ ได้แก่ รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อเหล็ก รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อยาง และระบบ ART (Autonomous Rapid Transit) และได้มีการนำเสนอต่อ คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) รับทราบเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 แล้วนั้น
ในส่วนของกระทรวงคมนาคม ได้รับทราบและมีข้อสั่งการเพิ่มเติม 4 ข้อ คือ 1. มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) พิจารณาภาพรวมการบริหารการจราจรของจังหวัดภูเก็ตทั้งระบบ โดยบูรณาการโครงการทั้งของกรมทางหลวง (ทล.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) รฟม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหาข้อสรุปการใช้พื้นที่ถนนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อสรุปร่วมกัน ก่อนหารือกับจังหวัดภูเก็ตในรายละเอียดต่อไป
2. มอบหมายให้ สนข.ร่วมกับ กทพ.และ รฟม.ทบทวนการประมาณการปริมาณผู้โดยสารโครงการทางพิเศษและระบบขนส่งมวลชนเป็นภาพรวมการประมาณการของจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าทั้งสองโครงการจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการตามที่คาดการณ์ไว้
3.ให้ รฟม.พิจารณาภาพรวมการคำนวณค่าโดยสารที่ รฟม.ได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นในเบื้องต้นไว้แล้ว โดยจะต้องมีอัตราที่ไม่เป็นภาระแก่ประชาชนตามนโยบายรัฐบาล ในขณะที่ต้องสามารถจูงใจให้เอกชนมาร่วมลงทุนได้
4. ในขั้นตอนการก่อสร้าง ให้ รฟม.พิจารณาใช้เทคนิคการก่อสร้างที่ใช้ระยะเวลาน้อยที่สุด เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจร เนื่องจากตามแนวเส้นทางของโครงการฯ จะผ่านบริเวณที่มีปัญหาการจราจรหนาแน่นอยู่แล้ว
กระทรวงคมนาคมมอบหมายให้ รฟม.เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตฯ ต่อเนื่องจาก สนข. ซึ่ง รฟม.แบ่งการดำเนินงานโครงการฯ ออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง มีระยะทาง 41.7 กิโลเมตร มีจำนวนสถานีทั้งหมด 21 สถานี และระยะที่ 2 ช่วงท่านุ่น-เมืองใหม่ ระยะทาง 16.8 กิโลเมตร
ทั้งนี้ รฟม.จะเริ่มดำเนินการในระยะที่ 1 ก่อน ซึ่งที่ผ่านมา รฟม.ได้ดำเนินการจัดงานสัมมนาทดสอบความสนใจของภาคเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Market Sounding) จำนวน 2 ครั้ง ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งได้ทบทวนผลการศึกษาเดิมของ สนข. และหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นแนวทางการปรับปรุงรูปแบบโครงการให้เป็นปัจจุบัน
สำหรับการศึกษาเบื้องต้น ART Tram มีกรอบลงทุนเบื้องต้น 19,912 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 1,499 ล้านบาท ค่าก่อสร้างงานโยธา 11,622 ล้านบาท ค่างานระบบรถไฟฟ้า 2,493 ล้านบาท ค่าจัดหาขบวนรถเริ่มต้น 2,966 ล้านบาท (22 ขบวน ขบวนละ 3 ตู้) ค่าที่ปรึกษาโครงการ 551 ล้านบาท ค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 781 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2569
ขณะที่หากเปรียบเทียบกับระบบรถแทรมป์ล้อเหล็กจะมีค่าลงทุนรวม 30,134 ล้านบาท ส่วนแทรมป์ล้อยางมีค่าลงทุนประมาณ 28,593 ล้านบาท