คณะกรรมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ทำแผนพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ เตรียมพัฒนาแพลตฟอร์มตลาดออนไลน์ สร้างสภาพแวดล้อม สร้างความเชื่อมั่น และพัฒนาผู้ประกอบการ ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าเป็น 5.35 ล้านล้านบาทในปี 65 “พาณิชย์” ลุยปั้นเด็กเป็น CEO ออนไลน์ ดันผู้ผลิต ผู้ส่งออก ตลาดสด ร้านธงฟ้า ขายออนไลน์ สร้างยี่ปั๊วออนไลน์นำสินค้า SMEs สู่ตลาดโลก
นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนว่า ที่ประชุมได้จัดทำแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) แห่งชาติ ตั้งเป้าเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อน e-commerce ของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม โดยคาดว่าภายในปี 2565 จะมีมูลค่า 5.35 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีการสำรวจโดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พบว่ามูลค่า e-Commerce ประเทศไทยมีมูลค่ารวม 4.02 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.91% จากปีก่อนหน้า
“ปัจจุบันการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Commerce ได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตของคนเราอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้ส่งผลให้การซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด จึงต้องเร่งส่งเสริมและผลักดันพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยให้เติบโตเพิ่มขึ้น”
สำหรับแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ได้นำนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มาเป็นแนวทาง และกำหนดยุทธศาสตร์การทำงาน 4 ด้าน ได้แก่ 1. การพัฒนาแพลตฟอร์มตลาดออนไลน์ (e-Marketplace) เพื่อส่งเสริมการค้าภายในประเทศและการค้าข้ามพรมแดน (Enhancement and Promotion) 2. การพัฒนาสภาพแวดล้อมและปัจจัยสนับสนุนการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในทุกด้านให้พร้อมรองรับการเติบโตของการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Ecosystem and Enabling Factors) 3. การสร้างความเชื่อมั่นในธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Trust and Sustainability) และ 4. การพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้สามารถใช้ประโยชน์จากธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Competency Building)
ส่วนแผนการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ในปี 2564 เพื่อขับเคลื่อนการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จะเดินหน้าผลักดันการค้าออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ โดยมีโครงการสำคัญ เช่น การปั้นเด็ก Gen Z to be CEO, การผลักดันผู้ผลิตและผู้ส่งออกให้เป็นผู้ค้าออนไลน์, การพัฒนาตลาดสด ร้านธงฟ้า ให้สามารถขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้, การสร้างยี่ปั๊วออนไลน์เพื่อให้เป็นฟันเฟืองเชื่อมโยงสินค้าของ SMEs และผู้ประกอบการรายเล็กเข้าสู่ช่องทางออนไลน์สู่ตลาดต่างประเทศ รวมทั้งการผลักดันสร้างทีมเซลส์แมนจังหวัดเผยแพร่ความรู้เรื่องการค้าออนไลน์ให้กับผู้ผลิตในระดับฐานราก
ทั้งนี้ คณะกรรมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ชุดนี้เป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกว่า 30 หน่วยงาน เช่น หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ (กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า และสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย เป็นต้น เพื่อร่วมขับเคลื่อนและกำหนดทิศทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยให้ครอบคลุมทุกมิติ