xs
xsm
sm
md
lg

เปิดกลยุทธ์ GQ ฝ่าวิกฤตโควิด-19

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน360- ส่องกลยุทธ์ จีคิว ( GQ) ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ปรับตัวสู้ครั้งใหญ่รอบ 60 ปี หน้ากากผ้าตัวเอกสร้างกระแส ดันรายได้รวมปีนี้คาดทะลุ 2,000 ล้านบาท โต 300% พร้อมขยายช่องทางใหม่ๆลุยออนไลน์ ผุดคอนเซ็ปท์สโตร์
แบรนด์จีคิว (G Q )ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้า แฟชั่น ของไทย เป็นสินค้าอีกแบรนด์หนึ่งในไม่กี่แบรนด์ที่ถูกกล่าวถึงอย่างมากในปีนี้(2563) ในแง่บวกเกี่ยวกับการปรับตัว ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดอย่างหนักในไทยและทั่วโลก หลายธุรกิจหลายแบรนด์ต้องเผชิญกับปัญหาที่ถูกกระทบโดยตรงจากโควิด-19 

อย่างไรก็ตาม แบรนด์เก่าแก่อย่าง จีคิว นี้ที่มีอายุอานามไม่ต่ำกว่า60 ปี ก็ได้รับผลกรทบเช่นกัน แต่ก็เป็นแบรนด์ที่ได้ปรับตัวปรับกลยุทธ์และรับมือได้อย่างดี สามารถนำพาธุรกิจเสื้อผ้า แฟชั่น แบรนด์จีคิวฝ่าคลื่นวิกฤตโควิดมาได้อย่างน่าสนใจ

นางสาวนันทิกา ธนาภิสิทธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการออกแบบ บริษัท สุภารากรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแบรนด์ จีคิว (GQ ) ของไทยที่มีอายุนานกว่า 60 ปี เปิดเผยว่า ในปี2563คาดว่าบริษัทฯจะมียอดขายรวมมากกว่า 2,000 ล้านบาท ขณะที่สิ้นสุดไตรมาสที่3 ที่ผ่านมามียอดขายแล้วประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วที่มียอดขายเพียง 500 ล้านบาท เท่านั้น และยังกล่าวได้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่ทำยอดขายได้สูงสุดกว่าในอดีตที่เคยทำไว้ที่ประมาณ1,200 ล้านบาท เท่านั้นเอง

แม้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่สาหัสมากที่สุดจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดอย่างรุนแรงในไทยและทั่วโลก ตั้งแต่ต้นปี2563 เป็นต้นมา ส่งผลกระทบต่อชีวิตและ ภาพรวมเศรษฐกิจทั้งระบบ รวมไปถึงปัญหาฝุ่นพิษPM 2.5 ด้วย แต่ก็ถือเป็นผลงานที่ดีไม่น้อย แต่ก็ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ

“ต้องยอมรับว่าโควิดทำให้เราต้องปรับตัวอย่างมาก และกระตุ้นให้เราต้องรีบทำ บางอย่างไม่เคยทำก็ต้องทำ บางอย่างที่คิดไว้แล้วคิดอีก ไม่ลงมือทำสักที แต่พอมีโควิดเกิดขึ้น ทุกอย่างเร่งรีบมาก เรามองว่า เสื้อผ้าก็เป็นหนึ่งในธุรกิจค้าปลีกที่โดนกระทบมากเหมือนกัน ที่สำคัญที่สุด พวกเราต้องทำความเข้าใจว่าปัญหาหลักคืออะไร ต้องปรับตัวอย่างไรทำอะไร ให้เร็วทันสถานการณ์ ทีมงานต้องพร้อมแก้ปัญหาได้ หาสินค้านวัตกรรมตอบโจทย์ ต้องมั่นใจเพื่อก้าวข้ามวิกฤตให้ได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราผลิตหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย ออกมารองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งหน้ากากผ้า คือตัวที่ทำให้เราเทคออฟ(Take Off) ได้” นางสาวนันทิกา กล่าว

การออกสินค้าใหม่หน้ากากผ้า รวมไปถึงคอลเลคชั่นใหม่ของผลิตภัณฑ์เดิมอย่่างเสื้อเชิ๊ต เสื้อยืด ก็เป็นอีกกลยุทธ์ที่มีต่อเนื่อง ในการสร้างยอดขายและสร้างแบรนด์มีความเคลื่อนไหวตลอด ซึ่งสินค้าที่วางจำหน่ายในปีนี้ของ GQ เช่น1. เสื้อเชิ้ตขาว GQWhite, 2.  หน้ากากผ้า GQWhite Mask, 3. เสื้อยืด GQ, 4. เสื้อโปโล GQ Perfect Polo  เป็นต้น รวมทั้งการทำคอลลาบอเรตกับแบรนด์อื่นอีกหลายราย และปีหน้า(2564) จะมีการออกสินค้าใหม่ต่อเนื่องในเชิงไลฟ์สไตล์มากขึ้น 

หน้ากากผ้าถือเป็นไฮไลท์ที่สำคัญ สามารถสร้างกระแสตลาดได้อย่างดี ถือเป็นการตอบโจทย์สถานการณ์รความปลอดภัยด้านสุขอนามัยได้ตรงจุด ถึงขั้นที่ว่า วันแรกที่วางจำหน่ายสามารถ ทำยอดขายได้มากกว่า 1 แสนชิ้น ในเวลาไม่กี่ี่ชั่วโมง
อีกคอลเลคชั่นท ี่ฮือฮาคือ การเปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ในไทย SchoolMaskPack™ 
แบรนด์หน้ากากผ้าดีไซน์สีสันสดใส สำหรับเด็กเเละผู้ใหญ่ ในแพ็ค 5 สี 5 วันได้ไม่ซ้ำ มีสายรัดที่หูปรับได้ ดีไซน์แบบ 3D มีถุงซักถนอมผ้าฟรีในแพ็คสำหรับใส่ในเครื่องซักผ้า เขียนชื่อของลูกๆ บน Name Tag เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของได้ และยังมี Calendar Organizer สำหรับเช็คตารางการใช้หน้ากากผ้าในแต่ละวันด้วย โดยในต่างประเทศมียอดขายสูงกว่าล้านชิ้นในสหรัฐอเมริกา เพราะมีลวดลายน่ารักเเละสีสันหลายแบบใส่ให้สนุกกันทั้งครอบครัว เช่น ลาย Tip™ Faces สุดคิ้วท์, Craymoji สุดกุ๊กกิ๊ก, Classic Stripes สุดปัง, Crayola Stripes สุดคลาสสิก, Cool Colors สุดชิค, Crayon Characters สุดน่ารัก เเละลายอื่นๆ รวม 15 ลายน่าสะสม

George Hartel ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท สุภารา กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “บริษัทดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับหน้ากากผ้ามาเป็นเวลา 7 เดือนเเล้ว ที่ผ่านมาเราได้ผลตอบรับดีมาโดยตลอดทั้งเรื่องภาพลักษณ์ของแบรนด์ ความน่าเชื่อถือของสินค้าเเละยอดขาย ผู้บริโภคก็ยังต้องใส่หน้ากากผ้าเพื่อความปลอดภัยของตัวเองเเละคนรอบข้าง ทำให้ธุรกิจหน้ากากผ้ายังคงขยายตัวไปได้ดี แม้ว่าจะมีคู่แข่งรายใหม่เข้ามาชิงตลาดมากขึ้น แต่บริษัทเราเองก็ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาสินค้าเเละออกสินค้าใหม่ๆ ที่มีฟีเจอร์หลากหลายมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ อยู่เสมอ”

รวมไปถึงการขยายกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นและเด็กลงมา จากเดิมที่กลุ่มหลักคือ ผู้ใหญ่

นอกจากนั้นจีคิวยังขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ๆจากเดิมเป็นร้านชอปแบบออฟไลน์ ที่มีประมาณ 140 จุดขาย และเคาน์เตอร์ในห้าง ที่เปิดปีนี้เช่นที่แฟชั่นไอส์แลนด์ และล่าสุดเปิดร้านโมเดลใหม่ว DNA Concept Store  ที่พร้อมพงษ์
ส่วนช่องทางที่ไม่ใช่ออฟไลน์ คือช่องทางออนไลน์ และช่องทางใหม่รวมกัน เช่น การขายในมาร์เก็ตเพลซเช่นลาซาด้า ช้อปปี้ เจดีเซ็นทรัล หรือทีวีช้อปปิ้งทเวนตี้โฟร์ เป็นต้น ซึ่งขณะนี้มีสัดส่วนยอดขายมากถึง 40% แล้ว ส่วนออฟไลน์ 60% ขณะที่ตลาดในส่วนต่างประเทศก็มีการส่งหน้ากากผ้าออกไปจำหน่าย ตลาดใหญ่อยู่ที่ อเมริกา แคนาดา ยุโรป ตะวันออกกลาง


กำลังโหลดความคิดเห็น