xs
xsm
sm
md
lg

ไฮเออร์ส่งแบรนด์ Candy ลุยคอมเมิร์ซ ปักธงปี 64 ขับเคลื่อนด้วยสมาร์ทโฮม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - ต้อนรับศึกเครื่องใช้ไฟฟ้าปี 64 “ไฮเออร์” ชูแบรนด์ Candy ตีตลาดกลางลงล่าง จับกลุ่มเจน y, z เน้นกำลังซื้อบนคอมเมิร์ซ พร้อมเปิดเกมรุกอัด 1,000 ล้านบาทลุยปี 64 ชูนวัตกรรม IoT สมาร์ทโฮมและแฟมิลีแคร์ มั่นใจโตอีก 37% ด้วยเป้ายอดขายรวมกว่า 8,445 ล้านบาท หลังปี 63 มั่นใจปิดรายได้ที่ 6,205 ล้านบาท โต 31%

นายจาง เจิ้งฮุ้ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2564 เรายังอยู่กับสถานการณ์โควิด จากปีนี้ที่ส่งผลกระทบในทุกธุรกิจ โดยเฉพาะภาพรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เชื่อว่าจะยังซบเซาต่อเนื่อง ส่งผลให้ไฮเออร์จึงต้องปรับตัวและมองหาโอกาส โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ที่พบว่าช่วงปี 63 ที่ผ่านมาการเติบโตดีมาก 

ล่าสุดในปี 2564 บริษัทพร้อมนำเครื่องใช้ไฟฟ้าในเครือ คือแบรนด์ Candy จากอิตาลี เข้ามาทำตลาด เน้นช่องทางขายออนไลน์เป็นหลัก จับกลุ่มเจน y และ Z ด้วยจุดแข็งที่ความทันสมัย ราคาสมเหตุสมผล ฟังก์ชันใช้งานง่าย เบื้องต้นจะมีทั้งหมด 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ และโทรทัศน์ โดยราคาที่จำหน่ายนั้นเฉลี่ยจะถูกกว่าแบรนด์ไฮเออร์ 10-15% 


“ปี 2564 เป็นปีที่ไฮเออร์พร้อมขยายตลาดอย่างเต็มที่ ด้วยงบการตลาดกว่า 1,000 ล้านบาท มากกว่าปีก่อน 20% เน้นทำตลาดในเชิงรุก ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพนักงานขาย ให้ความสำคัญต่อช่องทางขายมากขึ้น โดยเฉพาะช่องทางที่ยังอ่อนอยู่และยังไม่ได้เข้าไป เช่น เพิ่มช่องทางขายในโฮมโปร โมเดิร์นเทรดอื่นๆ และช่องทางออนไลน์ รวมถึงผลักดันผลิตภัณฑ์ในกลุ่มกลางถึงบนให้มากขึ้น กับการนำแบรนด์ Candy เข้ามาเสริมในช่องทางออนไลน์ เชื่อว่า 1 ปีแรก Candy จะทำรายได้กว่า 300 ล้านบาท จากเป้าหมาย 600 ล้านบาทของช่องทางออนไลน์ในปี 64 ที่โตขึ้นกว่าเท่าตัว จากปี 63 นี้ทำได้ 290 ล้านบาท” 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแบรนด์ไฮเออร์ สำหรับสินค้าใหม่ในปี 2564 จะยังคงเน้นสินค้าประเภท IoT Smart Home ที่สามารถควบคุมและเชื่อมต่อผ่านมือถือ รวมถึงเทคโนโลยีที่ช่วยส่งเสริมในด้านสุขภาพและความสะดวกสบาย เช่น เทคโนโลยี Self-Cleaning ในผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องซักผ้าและเครื่องปรับอากาศ ที่ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถทำความสะอาดตัวเองได้ เพิ่มประสิทธิภาพและสุขอนามัยในการใช้งาน เช่น 1. เครื่องปรับอากาศไอเออร์ Smart Cool รุ่น HSU-10VNR03T(W) ที่มีระบบ Smart Control สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi และควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน 


2. ตู้เย็นไฮเออร์ รุ่น HRF-MD758 ตู้เย็น IoT ระบบ Food Management สั่งสินค้าจากหน้าจอทัชสกรีน เพิ่มลูกเล่นด้วย Youtube, Facebook ที่จะทำให้การทำอาหารไม่น่าเบื่ออีกต่อไป 3. เครื่องซักผ้าไฮเออร์ Smart & Healthy Function ที่มีฟังก์ชันเพื่อสุขภาพ I-Refresh ที่ช่วยกำจัดเชื้อโรค, แบคทีเรีย ควบคุมการทำงานผ่าน Smart Phone ในซีรีส์ Smart & Healthy มี 4 รุ่น และ 4. สมาร์ททีวีไฮเออร์ รุ่น LE65S6 ขนาดจอ QLED 65 นิ้ว ระบบปฏิบัติการ Android พร้อมด้วยฟังก์ชัน Chromecast Built-in ที่สามารเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้โดยไม่ต้องใช้ Wi-Fi โดยรุ่นนี้จะเจาะกลุ่มตลาด Hi-end โดยเน้นฟังก์ชันที่ล้ำสมัยและดีไซน์เรียบหรู มั่นใจว่าจะทำให้ปี 2564 บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 37% คืดเป็นยอดขายรวมกว่า 8,445 ล้านบาท

ในปี 2564 นั้น ไฮเออร์ตั้งเป้าเพิ่มแชร์ในกลุ่มเครื่องปรับอากาศเป็น 15% จาก 13.5% และยังคงเป็นอันดับ 3 ของตลาด ส่วนตู้เย็นตั้งเป้าโตอีก 33% หรือมีแชร์เป็น 14% อยู่ในอันดับ 6 ของตลาด ภายใต้เป้าหมาย 3 ปีจะขึ้นเป็นอันดับ 2 ขณะที่เครื่องซักผ้าปีนี้มีแชร์ 8.6% เป็นอันดับ 6 ของตลาด ปีหน้าตั้งเป้าแชร์เป็น 11-12% หรือเป็นอันดับ 3 ของตลาด ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามแผน 3 ปีของไฮเออร์ที่ต้องการขึ้นเป็นอันดับ 1 ในตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือภายในปี 2566 ไฮเออร์จะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท จากปี 2563 นี้อยู่ในอันดับ 5 และในปี 2564 เชื่อว่าจะขึ้นเป็นอันดับ 4 และในปี 2565 จะมีรายได้ 10,000 ล้านบาท เป็นอันดับ 3 ของตลาด 

ขณะที่ในปี 2563 ไฮเออร์ปิดรายได้รวมที่ 6,201 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% เป็นรายได้จากเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน 2,905 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% ตู้เย็น 1,175 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% เครื่องซักผ้า 866 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% ตู้แช่ 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ 256 ล้านบาท โตขึ้น 1% สมาร์ททีวี 190 ล้านบาท โตขึ้น 110% เครื่องทำน้ำอุ่น 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% เครื่องใช้ในครัว 103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 296%












กำลังโหลดความคิดเห็น