กทท.พร้อมเจรจา “กลุ่ม GPC” ปรับผลตอบแทนท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ตามมติ กพอ. ตั้งเป้าต่ำกว่ากรอบไม่เกิน 10% ด้าน “ศักดิ์สยาม” ย้ำต้องยึดราคากลาง สั่งวางไทม์ไลน์เจรจาให้ชัดเจน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F วงเงิน 84,361 ล้านบาทว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 5/2563 มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 63 ได้ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กลับไปเจรจากับเอกชนในเรื่องผลประโยชน์ตอบแทนเพิ่มเติม ซึ่งตนได้เสนอที่ประชุม กพอ.ว่า กทท.และคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะต้องมีกรอบเวลาที่ชัดเจนในการเจรจาต่อรองกับเอกชนให้ได้ตามกรอบราคาภายในเมื่อใด
สำหรับราคากลางมาจาก 2 ส่วน คือ ค่าสัมปทานคงที่ กรอบคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ 32,225 ล้านบาท ส่วนค่าผันแปรที่คิดจากปริมาณตู้สินค้าในอนาคตตลอดอายุสัมปทานคิดเป็นมูลค่าปัจจุบันอยู่ที่ 4,400 ล้านบาท มูลค่ารวมที่ 38,000 ล้านบาท ขณะที่เอกชนยื่นข้อเสนอค่าสัมปทานคงที่ 18,000 ล้านบาทและเจรจามาอยู่ที่ 28,000 ล้านบาท ซึ่งยังต่ำกว่ากรอบค่อนข้างมาก
กทท.ชี้แจงว่า ขณะนี้มีประเด็นการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ทำให้ไม่มั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามที่คาดไว้หรือไม่ ประกอบกับการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ กทท.รับผิดชอบนั้นผลการประมูลพบว่ามีค่าก่อสร้างลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเรื่องนี้ทางระเบียบพัสดุไม่สามารถแก้ไขราคากลางก่อนที่จะประมูลจบได้
“ผมเห็นว่าคณะกรรมการคัดเลือกฯ ต้องกำหนดกรอบเวลาให้ชัดว่าจะเจรจากี่เดือน หากได้ตามกรอบราคาก็เดินหน้าต่อ หากไม่ได้ต้องยกเลิกและเริ่มกระบวนการใหม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นของอีอีซี ไม่ได้เป็นของกระทรวงคมนาคมโดยตรง ไม่เหมือนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินที่นายกฯ มอบหมายให้รองนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล และผม ทำให้มอนิเตอร์และเร่งรัดได้เต็มที่ ดังนั้นเรื่องนี้จะอยู่ที่คณะกรรมการอีอีซีพิจารณา” นายศักดิ์สยามกล่าว
ด้าน เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการ กทท.กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอมติ กพอ.อย่างเป็นทางการ ซึ่งได้รับการประสานจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ว่าอยู่ระหว่างสรุป โดย กทท.และคณะกรรมการคัดเลือกฯ นั้นพร้อมประชุม และเจรจาผลตอบแทนใหม่กับกลุ่ม GPC ประกอบด้วย บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (PTT TANK) บริษัท ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ทันที
ทั้งนี้ ที่ประชุม กพอ.จึงเห็นว่าควรไปเจรจากับเอกชนเพิ่มเติม หากผลตอบแทนส่วนนี้ต่ำกว่ารัฐคาดหมายไม่เกิน 10% น่าจะยอมรับได้ โดยคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะดำเนินการตามมติ กพอ. และเงื่อนไขการร่างข้อเสนอ (Request for Proposal : RFP) และตามประกาศของ สกพอ.เรื่องการประกาศเชิญชวน วิธีการประกาศเชิญชวน วิธีการคัดเลือกของคณะกรรมการคัดเลือก หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน พ.ศ. 2560 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562
“เดิมคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะประชุมและเจรจากับเอกชนในวันที่ 5 ม.ค. 64 แต่เนื่องจากต้องรอมติ กพอ.อย่างเป็นทางการก่อน อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะประชุมและเจรจากับเอกชนในเรื่องผลประโยชน์ตอบแทนภาครัฐเพิ่มเติมตามมติ กพอ.ได้ช่วงต้นเดือน ม.ค. 64 นี้ ขณะที่เอกชนจะยืนราคาไปถึงประมาณกลางเดือน มี.ค. 64 เท่ากับยังมีเวลาอีกประมาณ 2 เดือนเศษ”
