xs
xsm
sm
md
lg

SPCG ลั่นรายได้พุ่งแตะ 6-7 พันล้านปี 65 รุกโซลาร์ฟาร์ม 500 MW ใน EEC

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอสพีซีจีตั้งเป้ารายได้ 6-7 พันล้านบาทในปี 2565 หลังจากจับมือ PEA ENCOM รุกโซลาร์ฟาร์มในพื้นที่ EEC ไม่น้อยกว่า 500 เมกะวัตต์ในปี 2564-69 หวังดันให้ EEC เป็นสังคมคาร์บอนต่ำ โดยวางงบลงทุนปีหน้าอยู่ที่ 5 พันล้านบาท และเตรียมปิดดีลซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 100 เมกะวัตต์ที่ประเทศญี่ปุ่น

นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 6-7 พันล้านบาทในปี 2565 จากปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 5 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้จับมือกับบริษัทพีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (PEA ENCOM) ในเครือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จัดตั้งบริษัท SET Energy จำกัด เพื่อดำเนินการโครงการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ไม่ต่ำกว่า 500 เมกะวัตต์ (MW) ในปี 2564-2569 ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มูลค่าการลงทุนไม่เกิน 2.3 หมื่นล้านบาท

ในปี 2564 จะดำเนินการโครงการโซลาร์ฟาร์มราว 300 เมกะวัตต์ในพื้นที่ EEC คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/2564 หลังจากนั้นจะดำเนินโครงการโซลาร์ฟาร์มเพิ่มเติมให้ครบ 500 เมกะวัตต์ในปี 2569

“ในปี 2564 บริษัทฯ จะโตแบบก้าวกระโดด จากเดิมมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมญี่ปุ่นอยู่ที่ 500 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นเป็น 800 เมกะวัตต์ และในปี 2569 จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 เมกะวัตต์”

นอกจากนี้ บริษัทฯ จับมือพันธมิตรเพื่อเข้าซื้อกิจการ (M&A) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่นราว  100 เมกะวัตต์ คาดว่าจะปิดดีลการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวได้ในปี 2564 จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ในปลายปีนี้ แต่ต้องเลื่อนไปเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังมีการแพร่ระบาดอยู่ในประเทศญี่ปุ่นอยู่ โดยสัดส่วนการถือหุ้นและเม็ดเงินลงทุนในการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้

นางวันดีกล่าวต่อไปว่า SPCG กำหนดงบลงทุน 5 ปีนี้อยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท โดยปี 2564 บริษัทจะใช้เงินลงทุนประมาณ 5 พันล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินส่วนทุนที่บริษัทฯ จะใช้ลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มใน EEC
นายเขมรัตน์ ศาสตร์ปรีชา รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (PEA ENCOM) กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ได้มอบหมายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับผิดชอบในการจัดหาพลังงานสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการ และทันการเจริญเติบโตของ EEC โดย กฟภ.ได้มอบหมายให้ PEA ENCOM ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว โดยได้จับมือกับ SPCG ในการพัฒนาพื้นที่ EEC ให้เป็นพื้นที่ที่ใช้พลังงานสะอาด มีการกำหนดสัดส่วนให้การใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลต่อพลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิตไฟฟ้าจะอยู่ที่ร้อยละ 70:30 บริษัทฯ มีเป้าหมายผลักดันให้พื้นที่ EEC เป็นเมืองสังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) เป็นอันดับ 8 ของโลก

โครงการนี้จะช่วยให้เกิดการจ้างงานกว่า 50,000 คนในช่วงของการพัฒนาโครงการ อันจะนำไปสู่การสร้างรายได้ให้แก่ผู้มีงานทำ ชุมชน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งช่วยยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม การดูแลสังคมและสภาพความเป็นอยู่ของประชาชน ชุมชน และสาธารณูปโภคของสังคม รวมถึงยังช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้ไม่น้อยกว่า 11 ล้านตันคาร์บอน ภายในระยะเวลา 30 ปี หรือประมาณ 4 แสนตันคาร์บอนต่อปี


กำลังโหลดความคิดเห็น