บริษัทตั้งใหม่เดือน ต.ค.มีจำนวน 5,396 ราย ลดลง 6% เหตุผู้ประกอบการชะลอการทำธุรกิจ เพราะไม่อยากทำบัญชี ส่งงบการเงิน เผยบริการอาหารในภัตตาคารและร้านอาหารฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หลังได้รับแรงหนุนจากมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน และคนละครึ่ง คาดทั้งปีตั้งใหม่ 6-6.4 หมื่นราย
นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจในเดือน ต.ค. 2563 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศจำนวน 5,396 ราย เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ลดลง 4% และเทียบเดือน ต.ค. 2562 ลดลง 6% มีทุนจดทะเบียนมูลค่า 43,746 ล้านบาท เทียบกับ ก.ย. 2563 เพิ่มขึ้น 242% เทียบกับ ต.ค. 2562 ลดลง 56% เนื่องจากผู้ประกอบการชะลอการจัดตั้งทำธุรกิจใหม่ เพราะเป็นช่วงปลายปี ไม่อยากที่จะทำบัญชี และจัดส่งงบการเงินของปีบัญชี 2563 โดยคาดว่าเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2563 ยอดจดตั้งใหม่ก็จะลดลงต่อเนื่อง และจะไปเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงต้นปี 2564
สำหรับธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจบริการด้านอาหารในภัตตาคารและร้านอาหาร ซึ่งธุรกิจบริการด้านอาหาร ถือได้ว่ามีการฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากชะลอตัวในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล ผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และคนละครึ่ง และประเมินว่าแนวโน้มน่าจะดีขึ้นได้อีก
ส่วนธุรกิจเลิกกิจการ มีจำนวน 2,057 ราย เทียบกับ ก.ย. 2563 เพิ่มขึ้น 31% และเทียบกับ ต.ค. 2562 ลดลง 3% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 7,788 ล้านบาท เทียบกับ ก.ย. 2563 ลดลง 8% และเทียบกับ ต.ค. 2562 ลดลง 3% โดยธุรกิจที่เลิกกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป อสังหาริมทรัพย์ ภัตตาคารและร้านอาหาร
ทั้งนี้ ยอดรวมการจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วง 10 เดือนปี 2563 (ม.ค.-ต.ค.) มีจำนวน 55,574 ราย ลดลง 12% ทุนจดทะเบียนรวม 192,129 ล้านบาท ลดลง 32% และธุรกิจเลิกกิจการ มีจำนวน 12,450 ราย ลดลง 12% ทุนจดทะเบียน 55,691 ล้านบาท ลดลง 33% โดยคาดว่าทั้งปี 2563 จะมีการจดตั้งธุรกิจใหม่ประมาณ 60,000-64,000 ราย ลดลงจากปี 2562 ที่มีการจดตั้งใหม่รวม 71,485 ราย เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการชะลอการทำธุรกิจ