xs
xsm
sm
md
lg

“บีโอไอ” เร่งจัดระดับผู้ประกอบการไทย ดึงร่วมลงทุนหลังญี่ปุ่นส่งสัญญาณร้องขอ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กองพัฒนาผู้ประกอบการไทย บีโอไอ เตรียมจัดทัพสนับสนุนผู้ประกอบการไทยแบบครบวงจร เตรียมอัปเดตข้อมูลเพื่อจัดระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทย 2,000 รายเชื่อมโยงตลาดและหาพันธมิตรร่วมลงทุนหลังญี่ปุ่นส่งสัญญาณ มั่นใจแนวโน้มมูลค่าการเชื่อมโยงปี 2564 ฟื้นตัวตามทิศทางเศรษฐกิจ และการลงทุน

นางสาวซ่อนกลิ่น พลอยมี ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้กองพัฒนาผู้ประกอบการไทยซึ่งเป็นการรวมกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศกับกองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุนอยู่ระหว่างการจัดทำฐานข้อมูลนักลงทุนไทยที่มีอยู่ประมาณ 2,000 รายให้ทันสมัย (Update) ที่มีการวิเคราะห์และจัดระดับศักยภาพ (Level) ผู้ประกอบการไทยแยกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์การหาพันธมิตรร่วมทุน และการเชื่อมโยงการตลาดให้แก่นักลงทุน คาดว่าจะสามารถดำเนินการเสร็จภายใน 1-2 เดือนนี้ที่จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี)

“นักลงทุนญี่ปุ่นในแถบคันไซสนใจที่จะเข้าทำกิจกรรมกับเราในการจับคู่ธุรกิจเพื่อการซื้อและขาย และล่าสุดยังได้ Request ที่ต้องการร่วมทุนให้ช่วยหาพันธมิตรไทยให้หน่อย แต่เขาไม่ได้เน้นอุตสาหกรรมอะไร ซึ่งหากมองลึกลงไปอุตสาหกรรมแถบนั้นมีหลากหลาย ทั้งยานยนต์ แม้เป็นเอสเอ็มอีแต่เทคโนโลยีหลากหลาย ซึ่งการที่เขาสนใจหาผู้ร่วมทุนเรื่องการตลาดเรื่องหลักอยู่แล้ว แต่เรามองว่านี่คือความอยู่รอดทางธุรกิจจำเป็นต้องมีผู้ร่วมทุนในที่ที่ปลอดภัย และชี้ให้เห็นเทรนด์ไทยเป็นที่ที่เหมาะสมของการลงทุนเอสเอ็มอีรายที่ไม่ใหญ่มากนักโดยเฉพาะของญี่ปุ่น” น.ส.ซ่อนกลิ่นกล่าว

ทั้งนี้ ไทยเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายของนักลงทุนญี่ปุ่นที่จะเข้ามา โดยนักลงทุนส่วนใหญ่จะมองไทยในเรื่องของระบบสาธารณูปโภคที่ดี การเชื่อมโยงอุตสาหกรรม มากกว่าจะมาเน้นในเรื่องของค่าแรงเช่นอดีตที่ผ่านมาเพราะไทยได้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ มาพอสมควรแล้ว นอกจากนี้ยังพบว่านักลงทุนจากสหภาพยุโรปเริ่มสนใจไทยมากขึ้นจากกิจกรรมออนไลน์ที่ได้จัดขึ้น และติดต่อตรงผ่านสำนักบีโอไอในต่างประเทศจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ไทยต้องสร้างศักยภาพในบ้านให้แข็งแรงด้วย เช่น กรณีบีโอไอจัดกิจกรรมจับคู่ธรกิจ นักลงทุนต่างชาติจะต้องเข้ามาดูโปรไฟล์บริษัทและรายละเอียดเบื้องต้นในเว็บไซต์ ซึ่งปัญหาเว็บไซต์ของไทยไม่ตอบโจทย์

สำหรับกองพัฒนาผู้ประกอบการไทยซึ่งเป็นการรวมกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศกับกองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุน จะมุ่งเน้นการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยครบวงจร ทั้งการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมในประเทศ และการลงทุนไทยในต่างประเทศ ซึ่งสาเหตุที่รวมกองฯ เนื่องจากทั้ง 2 กองมีความเข้มแข็งมากขึ้นจากอดีตและมีเป้าหมายเดียวกันคือการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้เพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและขีดความสามารถ ประกอบกับโควิด-19 จึงทำให้ต้องตอบโจทย์ในเรื่องดังกล่าวตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งดูแลผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะเอสเอ็มอี จึงมีการบูรณาการทั้งงบ และบุคลากร รวมถึงการรองรับการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมในอนาคต ซึ่งในปี 2564 จะมีการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจและยังมีกิจกรรมสัมมนาต่อเนื่อง โดยเน้นออนไลน์เป็นหลัก คาดว่ามูลค่าการเชื่อมโยงรวมจะสูงกว่าปี 2563

“มูลค่าการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมปี 2563 ทั้งหมดรวมผู้ประกอบการรายใหญ่ และรายเล็ก ถึงเดือน ก.ย. 27,440 ล้านบาท ซึ่งยอมรับว่าลดลงราว 50% เพราะผลกระทบโควิด-19 แต่ปีหน้าเชื่อว่าจะดีขึ้นแน่นอน เราได้ปรับบทบาทจากเน้นเชื่อมโยงเพื่อซื้อขายชิ้นส่วนเป็นหลัก (Sourcing Linkage) ที่ไม่ใช่แค่เอสเอ็มอีแต่เราเชื่อมรายใหญ่กับรายเล็กด้วย และยังเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษา หน่วยงานวิจัย เพื่อการสร้างนวัตกรรม และการพัฒนาบุคลากร ซึ่งเป็นเป้าหมายการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยและผู้ประกอบการไทย เพื่อให้ไทยเป็นเป้าหมายและศูนย์กลางในการจัดหาชิ้นส่วนในภูมิภาค (Regional Sourcing Excellence)” น.ส.ซ่อนกลิ่นกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น