กองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุน บีโอไอ ปักหมุดแผนงานปี 2563 เชื่อมโยงความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมหวังหนุนเอสเอ็มอีไทยพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีในอนาคต เชื่อมโยงสถาบันการศึกษาหวังต่อยอดงานวิจัยและพัฒนารับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
น.ส.ซ่อนกลิ่น พลอยมี ผู้อำนวยการกองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุน (กพช. หรือหน่วย Build เดิม) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ปี'2563 กองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุนยังคงมุ่งเน้นการเชื่อมโยงความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการยกระดับวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี)ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเดิมไปสู่อุตสาหกรรมเป้าหมาย(S-Curve)เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในอนาคตหรือ Disruptive Technology โดยจะเน้นการเชื่อมโยงเอสเอ็มอีกับสถาบันการศึกษาที่บีโอไอเคยลงนามไว้ก่อนหน้านี้ 8 แห่งมากขึ้นจากเดิมที่เน้นการเชื่อมโยงระหว่างเอกชนกับเอกชนเป็นหลัก
" หน่วยงานรัฐ อย่างมหาวิทยาลัยที่เคยลงนาม (MOU) 8 รายได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเราจะเชื่อมโยงในการพัฒนาเทคโนโลยี ในงานวิจัยและพัฒนาให้มากขึ้น ไม่ใช่แค่เอกชนกับเอกชนเหมือนเดิมที่ผ่านมา"น.ส.ซ่อนกลิ่นกล่าว
ทั้งนี้การดำเนินงานจะผ่านการจัดกิจกรรมหลักยกระดับการต่อยอดเทคโนโลยีเดิมของอุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดแข่งขันในระดับโลกแทนที่จะเชื่อมโยงเพื่อจัดซื้อจัดหาชิ้นส่วนเป็นหลักเช่นที่ผ่านมาซึ่งกิจกรรมหลักที่สำคัญได้แก่ กิจกรรมในประเทศได้แก่ 1.กิจกรรมผู้ซื้อพบผู้ขาย(VMC) เน้นการเยี่ยมชมบริษัทที่มีเทคโนโลยีสูงเพื่อให้ผู้ประกอบการเรียนรู้เทคโนโลยีและการบริหารจัดการระดับโลก 2. กิจกรรมตลาดกลางซื้อขายชิ้นส่วน
3. กิจกรรมจัดหาผู้ผลิตชิ้นส่วนที่เพิ่มเติมเชื่อมโยงด้านเทคโนโลยี การร่วมทุน เชื่อมโยงเอสเอ็มอีกับสถาบันการศึกษา เพื่อให้เกิดการวิจัยและพัฒนาที่ตรงกับความต้องการของเอกชนที่จะต่อยอดเชิงพาณิชย์ ส่วนการจัดกิจกรรมในต่างประเทศ มุ่งเน้นเชื่อมโยงอุตสาหรรมที่จะนำคณะผู้ประกอบการร่วมออกงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ โดยได้เตรียมแผนงานที่จะเดินทางไว้ประมาณ 7 ครั้ง
สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะเน้นการเชื่อมโยงมากขึ้นได้แก่ อุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติ(Automation) อุตสาหกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ ระบบราง และอากาศยาน ที่จะมุ่งให้อุตสาหกรรมรายใหญ่คอยสนับสนุน ถ่ายทอดและเปลี่ยนความรู้ให้ผู้ประกอบการที่จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการต่างชาติรายใหญ่ในอุตสาหกรรมต่างๆ ในลำดับถัดไป
" ปี 2562 ที่ผ่านมามีมูลค่าการเชื่อมโยงกับผู้ซื้อรายใหญ่ 38,421 ล้านบาท และปี 2563 คาดว่ามูลค่าจะสามารถเติบโตได้ 10-15% ผ่านกิจกรรมผู้ซื้อพบผู้ขาย และงานซับคอน ไทยแลนด์ซึ่งในปี 2563 คาดว่าจะมีกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนคุณภาพชั้นนำร่วมออกงานกว่า 500 รายจากอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ การบิน ยานยนต์ ระบบราง เป็นต้นคาดว่าจะมีคู่เจรจากว่า 9,000 คู่มูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท"น.ส.ซ่อนกลิ่นกล่าว