พิษณุโลก - เปิดแนวคิด ดร.ภาคภูมิ ทรัพย์สุนทร นักเรียนทุนสหรัฐอเมริกา บอกตั้งชื่อวิชา “รักชาติยิ่งชีพ” เพื่อดึงดูดความสนใจ กระตุ้นอารมณ์ร่วม เป็นวิชาเลือก ไม่มีการให้เกรด ระบุเป็นเพียงแค่ร่างหลักสูตรเท่านั้น เตรียมเสนอที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยนเรศวร 20 ม.ค.เพื่ออนุมัติ ขอโทษ “สนธิ” และคนอื่นๆ ที่ถูกระบุชื่อเป็นผู้ทรงคุณวุฒิมาสอนโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า เพราะเป็นแค่ร่างวิชา
จากกรณีเมื่อวันที่ 9 มกราคม โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพเอกสารการสอนของ ดร.ภาคภูมิ ทรัพย์สุนทร รองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือตอนล่าง อาจารย์ภาควิชาชีวเคมี มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก หลังเตรียมเสนอให้สภามหาวิทยาลัย มีการเปิดสอนในรายวิชา “รักชาติยิ่งชีพ” My Beloved Country วิชาศึกษาทั่วไป หมวดที่ 1 จำนวนหน่วยกิต 3 (2-2-5) โดยมี ดร.ภาคภูมิ ทรัพย์สุนทร เป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบรายวิชา พร้อมเชิญ 18 ผู้ทรงคุณวุฒิเฉพาะด้านเข้ามาร่วมสอน และบรรยายให้นักศึกษา
ล่าสุด ดร.ภาคภูมิเปิดเผยว่า ยังไม่ได้เปิดสอนวิชา “รักชาติยิ่งชีพ” เป็นเพียงแค่ร่างหลักสูตรเท่านั้น และวันที่ 20 มกราคม 2563 นี้เตรียมเสนอให้ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยนเรศวร วางแผนร่างหลักสูตร “เป็นวิชาทางเลือก” จำนวน 3 หน่วยกิต แต่ไม่มีการสอบหรือตัดเกรด
ฉะนั้น การเชิญ 18 ผู้ทรงคุณวุฒิเฉพาะด้านเข้ามาร่วมสอนและบรรยายก็ยังไม่เกิดขึ้น รายชื่อดังกล่าวเป็นเพียงมีผู้เสนอมาเท่านั้น ทุกอย่างยังไม่มีการคุยหรือเชิญเพราะต้องเสนอร่างวิชาทั่วไปต่อสภามหาวิทยาลัยเพื่อให้ความเห็นชอบก่อน
“ก่อนอื่นต้องขอโทษคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และคนอื่นที่ถูกระบุเป็นผู้ทรงคุณวุฒิมาสอน จริงๆ แล้วยังไม่เกิดขึ้น เพราะเป็นแค่ “ร่างวิชา” ที่ผ่านมาก็มีคนเสนอว่าควรเสนอชื่อหมอวรงค์ร่วมสอนอีกด้วยเพราะเป็นคนพิษณุโลก”
สำหรับการตั้งชื่อวิชา “รักชาติยิ่งชีพ” นั้นก็เพื่อดึงดูดความสนใจ กระตุ้นให้เกิดอารมณ์ร่วม หากตั้งชื่อว่า “ศึกษาการเมืองสมัยใหม่ ระหว่างอนุรักษนิยมกับอำนาจนิยม” ถามว่าจะมีใครสนใจไหม ชื่อยาวมาก บังเอิญว่าการตั้งชื่อว่ารักชาติยิ่งชีพ คำนี้ถือว่าเป็นประเด็นเรียกความสนใจไม่น้อย ข่าวแพร่สะพัดหลังจากที่โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 63 ที่ผ่านมา มีคนสนใจทั้งแง่ลบและแง่บวกจำนวนมาก
ดร.ภาคภูมิเปิดเผยอีกว่า วิชานี้จะถูกวางในหมวดวิชาทั่วไป เป็นวิชาเลือก ไม่ได้ขึ้นตรงต่อวิชาชีพเพื่อประกอบวิชาชีพ แต่เปิดวิชานี้เป็นความรู้รอบตัว เพื่อเข้าใจชีวิต เข้าใจสังคม เสมือนว่าวิชารักชาติยิ่งชีพเป็นการทดลองยังสถานที่ปลอดภัย คือ มหาวิทยาลัย เพราะมหาวิทยาลัยเป็นสถานที่เรียนรู้ จึงถือว่าเป็นการทดลอง ถามว่าถ้าเปิดเวทีหรือวิชาลักษณะนี้ต่อบุคคลภายนอกจะมีความปลอดภัยไหม เมื่อถกเถียงทางการเมืองขึ้นเรื่องใหญ่แน่ๆ ฉะนั้นตนจึงขอเลือกเปิดวิชารักชาติยิ่งชีพในมหาวิทยาลัย ถือว่าปลอดภัยที่สุด
“เมื่อ 2 ปีก่อน ผมเคยเปิดวิชา “Creative Thinking” มีคนลงทะเบียนล้น จนต้องคัดเหลือห้องละ 30-40 คน นี่ก็ลักษณะคล้ายๆ วิชารักชาติยิ่งชีพ คือ เปิดวิชาสอนไม่เอาเกรด แต่จะถามวิธีคิดและแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน อาทิเช่น โจทย์ถามว่า ทำไมไฟฟ้าในมหาวิทยาลัยดับหลายแห่ง ผมจึงถามนิสิตว่าจะทำอย่างไร แจ้งซ่อมแล้วทำไมช้า ถามว่าติดขั้นตอนไหน ให้ไปวิเคราะห์ ไปดูกระบวนการและแก้ปัญหา แต่ถ้าบอกว่าไม่ใช่หน้าที่ก็จบกัน ไม่ต้องเรียนรู้ ปล่อยไป ถามว่าจะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นหรือเปล่า
ผมเองเรียนมาแนวทางวิทยาศาสตร์มาทั้งชีวิต จึงเอาแนวความคิดทางการเมืองทางสังคมมาสังเคราะห์ ไม่ใช่ว่าเอาคำโวยวายของนักการเมืองหาเสียงมาเป็นเรื่องหลัก ที่ผ่านมาผมเองก็ชอบฟังนักการเมืองหาเสียงหลายคน แต่สุดท้ายแล้วถามว่าฟังนักการเมืองพูดแล้วมีอะไร ลองนั่งทบทวนดู พูดเป็นชั่วโมงมีแต่น้ำ หาแก่นสารไม่ได้เลย ฉะนั้น การเรียนรักชาติยิ่งชีพ ก็คือ วิเคราะห์กรองเนื้อหาหลักๆ ของนักการเมืองที่พูดมาให้นิสิตวิเคราะห์ดู หาเหตุผลเป็นข้อๆ ว่ามีอะไรบ้างที่นักการเมืองพูดจริง”
อนึ่ง ดร.ภาคภูมิ ทรัพย์สุนทร อาจารย์ภาควิชาชีวเคมี คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร อายุ 36 ปี เป็นคนพิษณุโลกโดยกำเนิด ผ่านมัธยมต้นที่โรงเรียนสาธิตพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก ไปเรียนต่อมัธยมต้นและปลาย โรงเรียนบดินทรเดชา กทม. กระทั่งสอบเป็นนักเรียนทุนชีวะโอลิมปิกด้านวิทยาศาสตร์ เมื่อปี 2546 เดินทางไปเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยคาลเท็กซ์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
จากนั้นเรียนต่อจนจบปริญญาโทและปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด สหรัฐฯ แล้วจึงกลับมาใช้ทุนโดยเลือกลงมหาวิทยาลัยนเรศวร 3 ปีจนถึงปัจจุบัน กระทั่งริเริ่มเตรียมเปิดรายวิชา “รักชาติยิ่งชีพ” กำลังเป็นประเด็นร้อนทางโซเซียลฯ เนื่องจากวางแผนเชิญผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ ร่วมสอน แม้ยังไม่ถึงเวลาเปิดสอนนิสิต ม.นเรศวร แต่อยู่ระหว่างการพิจารณาขอเปิดรายวิชาศึกษาทั่วไป โดยผ่านความเห็นชอบต่อคณะกรรมการสภาวิชาการวันที่ 20 ม.ค.นี้
