“ศักดิ์สยาม” พบไจก้า ยันปมค่างาน VO หมื่นล้านไม่กระทบ เปิดเดินรถสายสีแดงตามแผน พ.ย. 64 โดย มี.ค. 64 จะให้ประชาชนนั่งฟรี ร่วมทดสอบเสมือนจริงก่อน ย้ำของบเพิ่ม รฟท.ต้องพิสูจน์งานจำเป็นจริง และต้องมีระเบียบรองรับ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลัง Mr.MORITA Takahiro หัวหน้าผู้แทนองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจก้า) ประจำประเทศไทย และคณะเข้าพบว่า ไจก้าได้สอบถามถึงการบริหารสถานีกลางบางซื่อ โดยกระทรวงคมนาคมได้ยืนยันว่าจะสามารถเปิดได้ตามกำหนดซึ่งจะเป็นช่วงก่อนเปิดเดินรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต คาดว่าจะเป็นช่วงก่อนเดือน มี.ค. 2564 และก่อนหน้านั้นจะมีการขอพระราชทานชื่อด้วย ส่วนรถทางไกลที่ใช้หัวจักรดีเซลจะมีการจอดด้านนอก และใช้หัวจักรไฟฟ้าลากเข้ามาในสถานีกลางบางซื่อ เพื่อไม่ให้มีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
โดยรถไฟสายสีแดงจะมีการทดลองเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) ในเดือน มี.ค. 2564 ซึ่งจะให้ประชาชนได้ร่วมทดลองใช้บริการโดยไม่เก็บค่าโดยสาร ประมาณ 3 เดือน จากนั้นเมื่อระบบมีความพร้อมทุกด้านและมีมาตรฐานความปลอดภัยจะเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์ และเก็บค่าโดยสาร ซึ่งตามแผนจะเป็นเดือน พ.ย. 2564
ทั้งนี้ ทางไจก้าได้สอบถามถึงวงเงินค่าก่อสร้างที่เกินกรอบงบประมาณมีการแก้ไขอย่างไร โดยกระทรวงคมนาคมได้ย้ำว่าจะพิจารณาและดำเนินการตามระเบียบกฎหมายให้ดีที่สุด ส่วนใดที่ดำเนินการได้ตามกฎหมายจะเร่งดำเนินการโดยเร็ว ส่วนใดที่ยังดำเนินการไม่ได้จะหารือกับอัยการสูงสุด และกระทรวงการคลัง
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า กรณีค่าก่อสร้างเกินกรอบวงเงินงบประมาณ หรือค่า VO นั้นจะไม่กระทบต่อแผนการเปิดเดินรถ เพราะเป็นคนละส่วนกัน โดยนายชยธรรม พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ได้ตรวจสอบสัญญาแล้วไม่มีปัญหาหากจะเปิดเดินรถสายสีแดง
สำหรับกรณีงานก่อสร้างเพิ่มเติม หรือ Variation Order (VO) ซึ่งเป็นงานที่เพิ่มเติมจากที่ออกแบบไว้ หากพบว่ามีความสำคัญและจำเป็นต่อระบบเดินรถจะสามารถเสนอขออนุมัติงบเพิ่มเติมได้ ซึ่งค่างานที่เพิ่มประมาณ 10,345 ล้านบาท เป็นค่าภาษีมูลค่าเพิ่มประมาณ 3,000 ล้านบาท และเป็นงานก่อสร้างเพิ่มเติมจากที่ออกแบบ หรือ VO ประมาณ 6,220 ล้านบาท ในส่วนนี้ต้องพิจารณารายละเอียดว่างานใดที่สามารถดำเนินการได้ตามระเบียบ เพื่อนำเสนอของบประมาณเพิ่ม
“ก่อนหน้านี้ให้เวลาการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พิสูจน์ 2 เดือน ซึ่งยังไม่เรียบร้อย เพราะการพิสูจน์ยาก เพราะบางงานเป็นงานที่อยู่ใต้ดิน ดังนั้น หากอะไรที่พิสูจน์ได้สามารถดำเนินการตามระเบียบก็ทำต่อ แต่ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ ผมก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร เพราะหากไม่มีระเบียบกฎหมายรองรับก็คงปล่อยให้ทำไม่ได้ แต่เรื่องนี้จะไม่กระทบต่อการเปิดเดินรถ”
นอกจากนี้ ได้หารือกับไจก้าในประเด็นอื่นๆ ที่ได้มีความร่วมมือกัน เช่น ความปลอดภัยทางถนน ซึ่งไจก้าได้ส่งผู้แทนเข้ามาดำเนินการควบคู่กัน, เรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีในการก่อสร้างถนน, การพัฒนาบุคลากรด้านโครงสร้างพื้นฐานทางถนนน โดยไจก้าสนับสนุนงบประมาณให้ดำเนินการ และการนำเทคโนโลยีก่อสร้างอุโมงค์มาใช้ในการก่อสร้างในประเทศไทย ขณะนี้กระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญมาก เพราะเป็นรูปแบบการก่อสร้างที่สามารถแก้ปัญหาผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมได้มาก
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ได้หารือเพิ่มเติมในเรื่องที่กระทรวงคมนาคมมีพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟร่วมกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (MR-MAP) ซึ่งสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะใช้งบจากกองทุนมอเตอร์เวย์ดำเนินการศึกษาแผนแม่บทในปี 2564 โดยมีแนวเหนือ-ใต้ 3 เส้นทาง ส่วนแนวตะวันออก-ตะวันตก มี 5 เส้นทาง ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญเส้นทางภาคใต้ เพราะจะเป็นการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกฝั่งอ่าวไทย และอันดามัน และมีมอเตอร์เวย์ และรถไฟทางคู่ เชื่อมระหว่างท่าเรือชุมพรและท่าเรือระนอง
นอกจากนี้ ไจก้ายังสอบถามถึงโครงการในพื้นที่อีอีซี ที่ดำเนินการไปตามแผน โดยโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินจะมีการส่งมอบพื้นที่เป็นไปตามแผน คาดว่าในปี 2564 จะส่งมอบพื้นที่ได้ครบ เหลือพื้นที่ต้องเจรจาประมาณ 40 รายจากทั้งหมด 400 กว่าราย
โครงการก่อสร้างเมืองการบินคาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนปี 2568 ส่วนการประมูลท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ได้เจรจาต่อรองราคาให้เป็นไปตามราคากลางที่กำหนด ซึ่งได้ยืนยันไจก้าว่าประเทศไทยเดินหน้าโครงการตามแผน