“สุพัฒนพงษ์” มั่นใจ ศก.ปี 2564 ฟื้นตัวต่อเนื่อง ลงทุนอีอีซีรวมไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาทช่วยขับเคลื่อน แย้มให้ดูตัวเลข ศก. “สศช.” ไตรมาส 3 จันทร์นี้ “บีโอไอ” โชว์สัญญาณลงทุนมาแล้วหลังออกบัตรส่งเสริม 9 เดือนในอีอีซีทั้งจำนวนโครงการและมูลค่าพุ่ง
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ครั้งแรก ว่า ขณะนี้มีสัญญาณที่ดีสำหรับเศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปีที่จะฟื้นตัวกว่าที่คาดไว้ และจะต่อเนื่องในปี 2564 ซึ่งจากการที่รัฐได้เร่งมาตรการต่างๆ รองรับโดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะก่อให้เกิดการลงทุนมากขึ้น โดยในปี 2564 คาดว่าจะเกิดการลงทุนในพื้นที่อีอีซีรวมไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท
“โครงการท่าเรือแหลมฉบังก็จะเร่งผลักดันให้เข้าบอร์ดอีอีซีเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการลงทุนในสิ้นปีนี้ เพื่อให้โครงสร้างพื้นฐานหลักในอีอีซีก้าวหน้าในการดึงการลงทุน ซึ่งที่ผ่านมากำหนดโครงการหลักไว้ 5 โครงการ ลงทุน 6.52 แสนล้านบาทก็จะรองรับได้อย่างดี ซึ่งพบว่าสัญญาณลงทุนจริงเริ่มมาโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้มีการออกบัตรส่งเสริมฯ การลงทุนในอีอีซีเพิ่มขึ้น ซึ่งเศรษฐกิจปีนี้น่าจะฟื้นตัวกว่าที่คาด ขอให้รอข่าวดีจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่จะแถลงตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 3 วันที่ 16 พ.ย. 63 นี้อีกครั้ง” นายสุพัฒนพงษ์กล่าว
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (เลขาฯ อีอีซี)กล่าวว่า กบอ.ยังได้รับทราบการลงทุนกับ บมจ.ทีโอทีในการบริการโครงสร้างพื้นฐาน 5G ในอีอีซีที่จะเสร็จใน 3 เดือน ที่ปัจจุบันทางอีอีซีได้ดำเนินการไปพอสมควร และหากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านไทยก้าวหน้าไปก่อนแล้ว 2 ปีที่จะมีส่วนสำคัญในการดึงการลงทุนในปี 2564 ที่คาดว่าการลงทุนทั้งรัฐและเอกชนจะมากกว่า 400,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นเม็ดเงินลงทุนที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ให้เติบโตได้
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า มีโครงการขอรับการส่งเสริมในอีอีซี 9 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ก.ย. 63) จำนวน 313 โครงการ มูลค่ารวม 109,430 ล้านบาท แม้ว่าจะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่หากพิจารณาจากตัวเลขออกบัตรส่งเสริม 9 เดือนอยู่ที่ 309 โครงการ เพิ่มขึ้น 16% คิดเป็นมูลค่าลงทุน 185,000 ล้านบาท เพิ่ม 47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นสัญญาณการลงทุนจริงที่เริ่มกลับมา
“ตัวเลขออกบัตร 9 เดือนแรกในอีอีซีเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนโครงการและมูลค่าลงทุน ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนที่ใกล้จะลงแล้ว ปกติบีโอไอจะเริ่มตั้งแต่มายื่นขอส่งเสริมการอนุมัติ และเมื่อจะลงทุนจริงก็จะออกบัตรส่งเสริมก็จะเริ่มต้นลงทุน การที่ตัวเลขออกบัตรที่เพิ่มขึ้นในอีอีซีก็ชี้ว่าโครงการที่ส่งเสริมฯ ไปกำลังจะลงทุนแล้ว” นายนฤตม์กล่าว