เงินเฟ้อ ต.ค. 63 ติดลบ 0.50% ลดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 มีทิศทางฟื้นตัวขึ้นชัดเจน หลังราคาสินค้าอาหารสด ผักสด เพิ่มสูงขึ้น แต่ก็ยังถูกฉุดโดยน้ำมัน และสินค้ากลุ่มอื่นที่ยังคงลดลง เผยมาตรการรัฐ เพิ่มวันหยุดยาว เที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง และช้อปดีมีคืน ไม่มีผลต่อเงินเฟ้อ แต่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย ล่าสุดพาณิชย์ลดราคาสินค้าล็อต 7 มีผลช่วยตรึงสินค้าไม่ให้ขึ้นอีก คาดทั้งปีเงินเฟ้อติดลบ 0.85%
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือน ต.ค. 2563 เพิ่มขึ้น 0.05% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย. 2563 และลดลง 0.50% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. 2562 ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันของปีนี้ นับตั้งแต่ มี.ค. 2563 และถือว่าติดลบน้อยลง แสดงว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวค่อนข้างชัดเจน แต่ยังไม่ฟื้นเร็ว ส่วนเงินเฟ้อ 10 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-ต.ค.) ลดลง 0.94% และเงินเฟ้อพื้นฐานที่หักสินค้าอาหารสดและพลังงานออก ลดลง 0.02% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย. 2563 และเพิ่มขึ้น 0.19% เมื่อเทียบกับเดือนต.ค. 2562 เฉลี่ย 10 เดือน เพิ่มขึ้น 0.31%
สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อฟื้นตัวดีขึ้น มาจากการสูงขึ้นของสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 1.57% โดยสินค้าสำคัญที่สูงขึ้น เช่น เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่และสัตว์น้ำ เพิ่ม 3.53% ผักสด เพิ่ม 13.54% จากผลกระทบของฝนตก น้ำท่วม ทำให้ผลผลิตเสียหาย ผลไม้สด เพิ่ม 0.33% เครื่องประกอบอาหาร เพิ่ม 2.54% เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 0.94% อาหารบริโภคในบ้าน เพิ่ม 0.44% นอกบ้าน เพิ่ม 0.68% แต่ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ลด 1.76% ไข่และผลิตภัณฑ์นม ลด 1.20%
ทั้งนี้ แม้สินค้ากลุ่มอาหารจะสูงขึ้น แต่เงินเฟ้อก็ถูกฉุดโดยกลุ่มสินค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มที่ลดลงถึง 1.70% มีสินค้าสำคัญที่เป็นตัวฉุดหลัก คือ น้ำมันเชื้อเพลิง ลด 13.82% ค่าโดยสารสาธารณะ ลด 0.01% การสื่อสาร ลด 0.03% เคหสถาน ลด 0.21% การตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล ลด 0.08% บันเทิง การอ่าน การศึกษา ลด 0.24% แต่เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า เพิ่ม 0.21% ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 0.07%
น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวว่า มาตรการของรัฐบาล ทั้งการเพิ่มวันหยุดยาว โครงการคนละครึ่ง เที่ยวด้วยกัน และช้อปดีมีคืน ไม่มีผลกระทบต่อราคาสินค้า ไม่มีผลทำให้สินค้าแพงขึ้น และกระทบต่อเงินเฟ้อ แต่เป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงที่เหลือของปีนี้ ขณะที่ผู้ประกอบการจะมีการแข่งขันกันลดราคาเพื่อดึงดูดให้ผู้บริโภคไปซื้อสินค้า โดยเฉพาะช้อปดีมีคืน ซึ่ง สนค.กำลังจะติดตามผลว่าจะช่วยหมุนการขับเคลื่อนของเศรษฐกิจได้กี่รอบ รวมทั้งล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการลดราคาสินค้าล็อต 7 อีก 13,700 รายการ ทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคไม่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อเงินเฟ้อ
สำหรับเป้าหมายเงินเฟ้อทั้งปี คาดว่าในช่วงที่เหลืออีก 2 เดือนจะยังติดลบอยู่ แต่ลบน้อยลง ทำให้ไตรมาส 4 ติดลบที่ 0.4% และทั้งปีจะติดลบอยู่ในเป้าหมายที่กำหนดไว้ คือ ลบ 1.5% ถึงลบ 0.7% ค่ากลางอยู่ที่ลบ 1.1% แต่น่าจะติดลบจริงแค่ 0.85% โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ราคาพลังงาน ที่ยังอยู่ในระดับต่ำ อาจจะเป็นแรงกดดันต่อเงินเฟ้อให้ติดลบเพิ่มขึ้นได้