“จุรินทร์” ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน แจ้งข่าวดีโครงการประกันรายได้ยางพาราและข้าวจะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. 3 พ.ย.นี้ พร้อมย้ำมาตรการรัฐบาลเริ่มส่งผลดี บวกตลาดโลกต้องการ ดันยางราคาพุ่งกิโลกรัมละ 70-80 บาท ส่วนปาล์มน้ำมันขึ้นแรง 6-7 บาท/กก. แล้ว
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการลงพื้นที่พบปะเกษตรกรตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางพารา และชาวสวนปาล์มน้ำมัน ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงกลุ่มท่าอยู่ ต.ท่าอยู่ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ว่า โครงการประกันรายได้ข้าวและยางพาราจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 3 พ.ย. 2563 เพื่อเป็นตัวช่วยให้แก่เกษตรกร และถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะเดินหน้าโครงการประกันรายได้ หลังจากที่โครงการประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้ผ่านการพิจารณาจาก ครม.ไปก่อนหน้านี้แล้ว
สำหรับยางพาราต้องถือเป็นข่าวดีของชาวสวนยาง เพราะขณะนี้ราคายางพาราได้ปรับตัวสูงขึ้นถึงกิโลกรัม (กก.) ละ 70-80 บาท เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว และยอดส่งทางรถยนต์เริ่มส่งออกได้มากขึ้น ความต้องการยางก็เริ่มมากขึ้น และสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ความต้องการถุงมือยางธรรมชาติสูงขึ้น
นอกจากนี้ยังได้รับผลดีจากมาตรการของรัฐบาล ที่ร่วมกันดำเนินการโดยกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการยางแห่งประเทศไทย กรมการค้าภายใน และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่ได้ช่วยกันผลักดันการส่งออกยางพาราได้ 500,000 ตัน มูลค่า 50,000 ล้านบาท รวมทั้งมาตรการอื่นๆ ของรัฐบาลที่นำมาช่วยรักษาระดับเสถียรภาพราคายาง เช่น การตรวจสอบสต๊อกยางพารา โดยกรมการค้าภายใน เพื่อเร่งรัดให้พ่อค้าซื้อยางพารามากขึ้น และให้สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าตรวจตราดูว่ามีการฮั้วบิดเบือนราคาตลาดหรือไม่
ส่วนปาล์มน้ำมัน ราคาก็ปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาขยับขึ้นไป กก.ละ 6-7 บาทแล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการช่วยเหลือราคาปาล์มน้ำมัน โดยการใช้มาตรการเร่งรัดการส่งออกน้ำมันปาล์มโดยให้เงินอุดหนุน กก.ละ 2 บาท โดย ม.ค.-ก.ย. 2563 ส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 400% และมาตรการอื่นๆ เช่น ส่งเสริมการใช้น้ำมัน B10 และให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นำน้ำมันปาล์มไปผลิตกระแสไฟฟ้า และจำกัดการนำเข้าและนำผ่านน้ำมันปาล์ม โดยสามารถนำเข้าได้ทางเดียว คือ ด่านคลองเตย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ปิดอยู่ที่ 75 บาทต่อ กก. และเมื่อหลายวันก่อนเคยขึ้นไปปิดที่ 80 บาทต่อ กก. ส่วนราคาผลปาล์ม ณ วันที่ 2 พ.ย. 2563 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ราคา กก.ละ 6.80-7.20 บาท กระบี่ กก.ละ 6.45-7.20 บาท ชุมพร กก.ละ 6.50-7.25 บาท และพังงา กก.ละ 6.75-7.00 บาท โดยเป็นราคาที่สูงขึ้นทะลุราคาประกันรายได้ที่กำหนดไว้ที่ กก.ละ 4 บาท