“จุรินทร์” ประกาศนำโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางและข้าวเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ในวันที่ 3 พ.ย.นี้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 3 พ.ย. 2563 มีเรื่องที่อยู่ในความรับผิดชอบของตน 2 เรื่อง คือ 1. โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ที่คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. โดยจะประกันรายได้ยาง 3 ชนิด คือ ยางแผ่นดิบชั้น 3 กิโลกรัมละ 60 บาท น้ำยางข้นกิโลกรัมละ 57 บาท และยางก้อนถ้วยกิโลกรัมละ 23 บาท จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้สองทางอย่างน้อยเท่ากับรายได้ที่ประกัน โดยใช้เงินประมาณ 10,000 ล้านบาท
“ขณะนี้ราคายางพาราดีขึ้นมาก วันนี้และสัปดาห์ที่ผ่านมาราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 FOB แตะ 80 บาท น้ำยางข้น 60-70 บาท และยางก้อนถ้วย 23-25 บาท เกิดจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้ยอดรถยนต์ส่งออกที่หายไป 40-50% เริ่มฟื้นตัว ทำให้รถยนต์ขายดีขึ้นและยางรถยนต์ก็ต้องใช้ยางแท่งและยางแผ่นจึงต้องการมากขึ้น และสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ความต้องการถุงมือยางธรรมชาติมีมากขึ้น จึงมีการใช้น้ำยางข้นมากขึ้น” นายจุรินทร์กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการของรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ร่วมมือกันภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ช่วยกันกำหนดมาตรการ เช่น เร่งรัดการส่งออกทำสัญญาซื้อขายยางพาราไปประมาณ 500,000 ตัน วงเงินประมาณ 50,000 ล้านบาท ยังส่งมอบไม่ครบ กำลังเร่งรัดการส่งมอบ ทำให้ความต้องการยางในประเทศเพิ่มขึ้น และมาตรการอื่นๆ เช่น เร่งรัดตรวจสอบสต๊อกยางพาราของผู้ประกอบการ เร่งรัดสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าไปตรวจสอบว่ามีการฮั้วกันระหว่างผู้ค้ารายใหญ่เพื่อทุบราคาให้ตกลงมาหรือไม่ ถ้าทำจะเข้าข่ายบิดเบือนการแข่งขันทางการค้า ก็จะดำเนินการต่อไป ซึ่งนโยบายทั้งหมดได้มีส่วนช่วยในการที่จะดึงราคาขึ้น
ขณะเดียวกัน จะมีการเสนอมาตรการเสริมเพิ่มเติมเพื่อดึงราคายางพาราอีก เช่น เร่งรัดส่งเสริมให้มีเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้ประกอบการไม้ยางพาราวงเงิน 20,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะช่วยดอกเบี้ยร้อยละ 3 และผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ยางมีวงเงินให้ 20,000 ล้านบาท โดยช่วยเหลือดอกเบี้ยร้อยละ 3 เช่นเดียวกัน เพื่อเร่งให้มีการรับซื้อยางพารา
ส่วนเรื่องที่ 2 คือ โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยใช้หลักการเดียวกันกับปีที่แล้ว วงเงินประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยในวงเงิน 50,000 ล้านบาทเป็นประกันได้ส่วนหนึ่ง และเงินช่วยเหลือสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ครัวเรือนละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. เช่นเดียวกัน