ชง “กบน.” เคาะแผนรีดเงินโปะกองทุนน้ำมันฯ ช่วงราคาโลกดิ่ง สะสมไว้ใช้รับวิกฤต

สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เตรียมเสนอ กบน. ไฟเขียวใช้จังหวะน้ำมันตลาดโลกขาลงรีดเงินสะสมเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หวังตุนเงินไว้รับมือกรณีวิกฤตโดยไม่เกินเพดาน 4 หมื่นล้านบาท พร้อมเล็งกำหนดเพดานตรึงดีเซลไว้ไม่เกิน 25 บาทต่อลิตรกรณีวิกฤตเพื่อลดภาระกองทุน

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า สกน.เตรียมนำเสนอแนวทางการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน เป็นประธาน ปลาย ต.ค.นี้ โดยการนำเสนอแผนการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯ เพิ่มขึ้นทั้งกลุ่มเบนซินและดีเซลในช่วงราคาขาลงเพื่อสะสมเงินไว้ดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมันช่วงตลาดโลกขาขึ้นเพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะราคาดีเซลที่มีแนวคิดจะกำหนดกรอบราคาดีเซลดูแลไม่เกิน 25 บาทต่อลิตรจากอดีตที่กำหนดตรึงราคาไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร ส่วนกรอบการจัดเก็บเงินสะสมจะไม่เกินเพดาน 40,000 ล้านบาท และหากเกิดวิกฤตด้านราคาก็สามารถกู้ได้ไม่เกิน 20,000 ล้านบาท

“ครม.เมื่อ 20 ต.ค. 2563 ได้เห็นชอบแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงและแผนยุทธศาสตร์กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ปี 2563-2567 สกนช.จึงต้องดำเนินการให้เป็นไปตามแผนงาน ซึ่งเห็นว่าช่วงนี้ราคาดีเซลยังต่ำมากหากมีช่วงว่างในการเก็บเงินสะสมเข้ากองทุนฯ ไว้ก็จะเป็นเรื่องดี และยังมีแนวคิดว่า จะดูแลราคาดีเซลไม่เกิน 25 บาทต่อลิตร ต่ำกว่าอดีตที่ดูแลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร จะเป็นไปได้ไหมซึ่งขณะนี้เงินกองทุนฯ เหลือเงินสุทธิ 30,718 ล้านบาท” นายวิศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้ ตาม พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ได้กำหนดลดการชดเชยน้ำมันที่มีส่วนผสมเชื้อเพลิงชีวภาพ 3 ปี หลังกฎหมายบังคับใช้แล้วและสามารถต่ออายุได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 2 ปี จากนั้นจะไม่มีการชดเชยราคาน้ำมันที่ผสมเชื้อเพลิงชีวภาพได้อีกเพื่อพัฒนาต้นทุนให้มีศักยภาพการแข่งขันโดยรัฐไม่ต้องอุดหนุน ดังนั้น สกนช.จะเสนอ กบน.ลดการชดเชยราคาน้ำมันที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพลงในอัตรา 50% ตั้งแต่ 24 ก.ย. 2564 และยกเลิกชดเชย หรือชดเชยเป็น 0 ตั้งแต่ 24 ก.ย. 2565 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้เงินกองทุนน้ำมันฯ ทยอยไหลออกลดลง และหยุดไหลออกในที่สุด

“การลดการชดเชยน้ำมันที่ผสมเชื้อเพลิงชีวภาพเพื่อไม่ให้กระทบราคาขายปลีกต่อประชาชนมากไปในระยะแรก สกนช.มีแนวคิดที่จะหารือกับสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 เพื่อร่วมกันพิจารณาระดับค่าการตลาดที่เหมาะสม ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับระดับนโยบายว่าจะเป็นอย่างไร” นายวิศักดิ์กล่าว

ทั้งนี้ แผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงและแผนยุทธศาสตร์กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ปี 2563-2567 ที่ผ่านการเห็นชอบจาก ครม.เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 63 ทาง สกนช.นำเสนอ ดังนี้ 1. ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทำการแยกบัญชีตามกลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิง ได้แก่ กลุ่มน้ำมันดีเซล กลุ่มน้ำมันเบนซิน และก๊าซปิโตรเลียมเหลว เพื่อหลีกเลี่ยงการอุดหนุนราคาข้ามกลุ่มเชื้อเพลิง 2. มีกรอบความต่างของราคาระหว่างราคาเชื้อเพลิงหลักของกลุ่มน้ำมันดีเซล และกลุ่มน้ำมันเบนซินในกรณีเกิดวิกฤตการณ์ด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเท่ากับความต่างของราคาในสถานการณ์ราคาปกติ อย่างไรก็ตาม หากเกิดวิกฤตที่คาดว่าจะยาวนานจนส่งผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ทำให้เงินกองทุนน้ำมันขาดสภาพคล่องให้พิจารณาอุดหนุนราคาดีเซลชนิดเดียว

3. ชดเชยราคาน้ำมันเมื่อเกิดวิกฤตการณ์ด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาในช่วงระยะเวลาสั้นๆ 4. เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงที่ราคาลง เพื่อสะสมเงินให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีสภาพคล่อง และ 5. ทบทวนแนวทางการรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และหลักเกณฑ์การบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง